เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - วันนี้ (30 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด ประกาศแผนเดินหน้าขยายแนวโขดหินเกาะมิดเดิล ร็อกส์ (Middle Rocks) ให้กลายเป็นเกาะเทียมบริเวณปากทางเข้าช่องแคบสิงคโปร์ ซึ่งในปี 2008 ศาลโลก ICJ ตัดสินให้เป็นของแดนเสือเหลืองหลังพิพาทกับแดนลอดช่อง เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังผู้นำมาเลย์ประกาศยกเลิกความร่วมมือสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 2 ประเทศเข้าด้วยกัน
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ สื่อฮ่องกงรายงานวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า นโยบายปฎิรูปล่าสุดที่ออกมาจากผู้นำมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัดเกิดขึ้นในวันพุธ (30) ต้องการให้มาเลเซียมีเกาะเทียมเป็นของตัวเองด้วยแผนขยายพื้นที่แนวโขดหินเกาะมิดเดิล ร็อคส์((Middle Rocks) พื้นที่พิพาทกับสิงคโปร์ แต่ในปี 2008 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ ตัดสินยกเกาะแห่งนี้ให้เป็นของมาเลเซีย
พบว่าที่ตั้งของเกาะมิดเดิล ร็อคส์ซึ่งเป็นเพียงแนวโขดหินเล็กๆนั้นอยู่บริเวณทางเข้าช่องแคบสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเกาะเปดราบรังกา (Pedra Branca) ตามการเรียกของสิงคโปร์ ที่รู้จักในมาเลเซียในชื่อ ปูเลาบาตูปูเตะห์ (Pulau Batu Puteh) หรือเกาะหินขาว พบว่าศาลเดียวกันนี้ตัดสินให้เกาะเกาะเปดราบรังกาเป็นของสิงคโปร์
โดยในปีที่ผ่านมา ทางกัวลาลัมเปอร์ภายใต้รัฐบาลนาจิบ ราซัค ได้ยื่นเรื่องขอให้ศาลโลก ICJ พิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่ทว่าในวันพุธ (30) ทางศาลโลกแถลงว่าทางมหาเธร์ได้ขอถอนเรื่องออกไป
“เป็นความตั้งใจของทางเราในการขยายพื้นที่เกาะมิดเดิล ร็อกส์ เพื่อที่ทางเราจะสามารถสร้างเกาะเล็กๆให้กับพวกเราได้” มหาเธร์ประกาศในงานแถลงข่าวหลังจากนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.คที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม สื่อฮ่องกงชี้ว่า ผู้นำวัย 92 ปียังไม่เปิดเผยในรายละเอียดถึงโครงการสร้างเกาะเทียมใกล้กับสิงคโปร์ครั้งนี้
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ วิเวียน บาลักริชนาน (Vivian Balakrishnan) กล่าวว่า สิงคโปร์รู้สึกยินดีที่ตกลงด้วยของเรื่องที่ได้ดำเนินมา ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ทาง ICJ จะพิจารณาการไต่สวน
“ทางเรามั่นใจในเคสของเรา และความถูกต้องของการตัดสินใจของทาง ICJ” บาลักริชนานกล่าว
และรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์แถลงต่อว่า “เมื่อทางมาเลเซียร้องขอไม่ให้ดำเนินการต่อ โดยปราศจากพวกเขาในการขัดแย้ง ทางเรามีความยินดีที่ตกลงด้วย ซึ่งทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ต่างผ่านการดำเนินการกระบวนการและวิถีทางตามกฎหมาย และทำให้เรื่องนี้ยุติ”
รอยเตอร์รายงานว่า ในเวลานี้ทางสิงคโปร์ยังไม่มีความเห็นออกมาในแผนการขยายเกาะมิดเดิล ร็อคส์ของมหาเธร์
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานว่า มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนได้เคยวิจารณ์เมื่อครั้งที่อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบยื่นเรื่องให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ พิจารณาคำตัดสินเกาะเปดราบรังกาใหม่อีกครั้ง ซึ่งชี้ว่านาจิบทำไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองต้องการปลุกกระแสรักชาติต่อต้านประเทศเกาะเพื่อนบ้านก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งคำพิพากษาปี 2008 ได้ยุติการพิพาทที่ยาวนานระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เริ่มตั้งแต่ปี 1979 เมื่อในเวลานั้นมาเลเซียได้ตีพิมพ์แผนที่แสดงให้เห็นว่าเกาะเปดราบรังกาอยู่ภายในอาณาเขตน่านน้ำมาเลเซีย
ทั้งนี้ มหาเธร์ที่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ ICJ ได้กล่าวว่า ทางมาเลเซียได้สร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นบนเกาะมิดเดิล ร็อคส์แล้ว
การประกาศสร้างเกาะเทียมของมหาเธร์เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่รัฐบาลแดนเสือเหลืองของเขาแถลงยุติความร่วมมือโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกับสิงคโปร์ ซึ่งในวันพุธ (30) หลังจากการประชุมคณะครม.ได้สิ้นสุด ผู้นำมาเลเซียประกาศว่า เป็นการตัดสินใจที่แน่นอนในการยกเลิกโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยอ้างเหตุต้องการยกเลิกโครงการเพื่อลดภาระหนี้กู้ยืมลง
“เราได้กู้เงินมาเป็นจำนวนมาก และทางเราจะไม่สามารถคืนเงินจำนวนมากได้หากเรายังคงเดินหน้าโครงการนี้ต่อ ดังนั้นทางเราจะไม่พิจารณาโปรเจกต์(รถไฟความเร็วสูง) หรือเมกะโปรเจกต์ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์” มหาเธร์กล่าว
ทั้งนี้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ที่ในเวลานี้กำลังถูกตรวจสอบถึงบทบาทของเขาในกองทุน 1MDB ที่อื้อฉาว ซึ่งในช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่งพบว่ามาเลเซียมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก
และมหาเธร์ยังกล่าวต่อว่า “หากว่าประเทศนี้ต้องการที่เลี่ยงการล้มละลาย เราต้องเรียนรู้จัดการหนี้มหาศาลของตัวเอง ดังนั้น หนึ่งในหนทางแน่นอน คือ การหลีกเลี่ยงต่อโครงการที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ประเทศ”
ทั้งนี้ในวันจันทร์ (28) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงว่า เขาเชื่อว่ามาเลเซียมีหนี้ค้างที่ต้องจ่ายจำนวน 500 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือราว 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับค่าปรับในการบอกยกเลิกสัญญากับสิงคโปร์ซึ่งลงนามในสมัยนาจิบปี 2016
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย แอนโธนี โลค (Anthony Loke) ได้แถลงวันนี้ (30) ว่า การยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงจะเป็นหัวข้อในการเจรจากับสิงคโปร์ต่อไป ซึ่งมาถึงทุกวันนี่ยังไม่มีการประเมินสำหรับโปรเจกต์ แต่อาจสูงถึง 60 พันล้านริงกิตมาเลเซีย
และสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นวูดแลนด์ส (Woodlands) เมืองทางตอนเหนือของสิงคโปร์ที่จะเชื่อมกับเมืองทางใต้ของมาเลเซียโจโฮร์บะฮ์รู รัฐยะโฮร์ โลคชี้ว่า จะยังคงเดินหน้าต่อไป
0" allow="autoplay; encrypted-media" allowfullscreen>
