เอเจนซีส์ - ในเหตุการณ์เครื่องบินตกคิวบาที่เลวร้ายสุดในรอบ 30 ปี และมีผู้รอดชีวิตเพียง 3 รายเป็นหญิงทั้งหมด แต่ทว่าล่าสุดพบว่า 1 ใน 3เสียชีวิตแล้วในโรงพยาบาลเมื่อวานนี้(21 พ.ค)จากการทนพิษบาดเจ็บไม่ไหว ส่งผลทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 111 ราย กระทรวงสาธารณสุขคิวบารายงาน
DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้(22 พ.ค)ว่า ผู้เสียชีวิตคือ เกรเธล แลนดโดรฟ ฟอนต์(Gretell Landrove Font) หญิงวัย 23 ปี ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บขั้นร้ายแรงที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเครื่องบินโบอื้ง 737 ตกใกล้กรุงฮาวานาในวันศุกร์(18)
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า เธอผู้นี้นอกจากจะเป็นนักเต้นฟลามิงโกแล้ว ยังเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์อีกด้วย ซึ่งอัมพาโร ฟอนต์(Amparo Font), มารดาของฟอนต์ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสื่ออังกฤษบริเวณด้านนอกโรงพยาบาล โดยกล่าวถึงบุตรสาวว่า เป็นนักสู้ แต่ไม่นานหลังจากนั้นมีการประกาศข่าวการเสียชีวิตของเธออกมา
ในขณะผู้รอดชีวิตที่เหลืออีก 2 รายซึ่งเป็นสตรีเช่นกัน ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต ที่รวมไปถึงการถูกไฟลวกขั้นร้ายแรง และอาการวิกฤตอื่นๆ ผู้อำนวยการได้เปิดเผยต่อสื่อของรัฐ DW รายงาน
ซึ่งสื่ออังกฤษได้เปิดเผยชื่อของผู้รอดชีวิตอีก 2 คนคือ เมเลน ดิแอซ (Mailen Diaz) วัย 19 ปี และเอมิลี ซานเชซ(Emiley Sanchez )วัย 39 ปี
ทั้งนี้พบว่าเครื่องบินที่เกิดเหตุอายุ 39 ปีถูกเช่าซื้อจากสายการบินแห่งชาติ คิวบานา(Cubana )ซึ่งมาจาก ดาโมจ์ฮ์(Damojh) บริษัทเม็กซิโกที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก โดยบีบีซีกล่าวว่า เครื่องบินลำที่เกิดอุบัติเหตุถูกต่อขึ้นในปี 1979 ซึ่งอดีตนักบินรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่า เครื่องเรดาร์เคยหยุดทำงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ในขณะที่อีกคนให้ความเห็นว่า มีการซ่อมบำรุงที่แย่
ในขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนเม็กซิโกDGAC ในวันจันทร์(21)ออกคำสั่งให้บริษัทเช่าเหมาลำแห่งนี้ยุติการให้บริการชั่วคราว โดยทางสำนักงานแถลงว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวนพิเศษท่ามกลางการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการปฎิบัติด้านการบำรุงรักษา และมาตรฐานความปลอดภัย