เอพี- ล่าสุดพบลาวาร้อนหลอมเหลวจากภูเขาไฟคิลาเวของรัฐฮาวายได้ไหลลงมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลทำให้เกิดปรากฎการณ์ “laze” ที่มีก๊าซพิษกรดไฮโดรคลอริกสีขาวฟุ้งสู่อากาศผสมไปกับอนุภาคแก้วละเอียดกระจายทั่วเหนือท้องฟ้า มีความอันตรายร้ายแรงนับตั้งแต่ภูเขาไฟระเบิดครั้งแรกเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะเก็ดลาวาหลอมเหลวปลิวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งแรกวันเสาร์(19 พ.ค)
เอพีรายงานวันนี้(21 พ.ค)ว่า เจ้าหน้าที่รัฐฮาวายออกคำเตือนวันอาทิตย์(20)ให้ประชาชนออกห่างจากเมฆหมอกไอน้ำพิษซึ่งก่อตัวมาจากปฎิกริยาเคมีหลังจากลาวาของภูเขาไฟสัมผัสกับน้ำในมหาสมุทร
ซึ่งบนเนินที่สูงขึ้นไป ลาวายังคงไหลอย่างรวดเร็วออกจากรอยแยกบนพื้นในเขตชุมชนที่ห่างไกลบนเกาะใหญ่ของรัฐฮาวาย ซึ่งแม่น้ำลาวาที่เกิดมาจากหินหลอมเหลวไหลผ่านพื้นที่เกษตรกรรมและป่าระหว่างทางในการไหลลงสู่น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก
อัตราการเกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาจากรอยแยกบนพื้นนั้นมีถึง 3 เท่า ส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่ฮาวาย เคาน์ตีต้องประกาศเตือนไปถึงปัญหาคุณภาพอากาศโดยด่วน โดยบริเวณยอดภูเขาไฟเกิดระเบิด 2 ครั้งส่งให้เถ้าถ่านภูเขาไฟออกมา และกระแสลมได้หอบพัดเถ้าถ่านเหล่านี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
การไหลออกมาของลาวาทำให้มีผู้บาดเจ็บในวันเสาร์(19) เป็นชาย โดยพบว่าชายผู้เคราะห์ร้ายได้รับบาดเจ็บที่ขาในขณะที่กำลังอยู่นอกบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ในเขตผลกระทบภูเขาไฟคิลาเวระเบิด พบว่าลาวาได้ถูกบริเวณส่วนขาของชายผู้นี้
โดยเจเนต ซินเดอร์(Janet Snyder)โฆษกสำนักงานนายกเทศมนตรีฮาวาย เคาน์ตี กล่าวว่า สะเก็ดลาวาร้อนได้ปลิวกระทบที่คางในตอนแรกและได้แตกกระจายไปทั่วด้านล่างจนไปถึงบริเวณขา
ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ลาวาที่ไหลพุ่งขึ้นด้านบนจากรอยเยกนั้นสามารถมีน้ำหนักมากเทียบเท่ากับตู้เย็น 1 ตู้ได้เลยทีเดียว และถึงแม้จะเป็นขนาดเล็กอาจจะสามารถเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้
ซึ่งการบาดเจ็บครั้งแรกที่เกิดขึ้นเกิดในวันเดียวกับที่ลาวาไหลข้ามถนนไฮเวย์และลงสู่มหาสมุทรสำเร็จ เอพีชี้
ปฎิกริยาการตกกระทบของลาวาสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเรียกว่า "laze" นั้นทำให้เกิดไอก๊าซพิษซึ่งเป็นกรดไฮโดรคลอริก และอนุภาคแก้วละเอียดกระจายไปทั่วอากาศ สามารถปลิวกระทบไปทั่วทั้งบริเวณดวงตาและผิวหนังและทำให้เกิดการติดขัดทางการหายใจ เป็นอันตรายอย่างมาก
ปรากฎการณ์ laze เกิดขึ้นไปไกลในระยะ 24 ก.มทางตะวันตกจากบริเวณที่ลาวาไหลลงมหาสมุทรบนชายฝั่งทางใต้ของเกาะใหญ่ เวนดี สโตวาล(Wendy Stovall) นักวิทยาศาสตร์ประจำสำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ USGS กล่าว
เจ้าหน้าสหรัฐฯยังเตือนว่า ทิศทางหมอกควันพิษอาจเกิดการเปลี่ยนทิศได้หากกระแสลมเกิดเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ถูกสั่งอพยพออกไป ส่วนถนนไฮเวย์เส้นที่ลาวาไหลข้ามนั้นถูกปิดลงชั่วคราว
อย่างไรก็ตามในเวลานี้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯออกมายอมรับว่า ยังไม่ทราบว่าการปะทุของภูเขาไฟจะเกิดนานเท่าใด และที่ผ่านมาพบว่าภูเขาไฟคิลาเวได้เปิดรอยแยกไปแล้วร่วม 20 แห่ง รวมไปถึงรอยแยกใหม่ 4 แห่งที่เกิดมาจากรอยแยกขนาดใหญ่ 1 แห่ง
ซึ่งส่งให้ลาวาร้อนแดงไหลพุ่งสู่อากาศ และทำให้เกิดแม่น้ำลาวาไหลมุ่งหน้าลงมหาสมุทรด้วยอัตราความเร็ว 274 ม./ช.ม
และเมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ผลกระทบภูเขาไฟระเบิดนั้นมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดของเกาะใหญ่ที่มีประมาณ 10,360 ตารางกิโลเมตร และทางเจ้าหน้าที่เตือนนักท่องเที่ยวว่า เที่ยวบินจากท่าอากาศยานบนเกาะใหญ่นั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ