เอเอฟพี - จิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ ถือโอกาสเหน็บแนม โดนัลด์ ทรัมป์ เบาๆ เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) โดยระบุว่าการที่ตนมาแจกปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนียยังสามารถดึงดูดคนได้เยอะกว่าตอนที่ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วเสียอีก
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีประสาทปริญญาบัตรที่หอประชุมมหาวิทยาลัยลิเบอร์ตี (Liberty University) คาร์เตอร์ วัย 93 ปี กล่าวว่า “ผมก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่มันเยอะ...เยอะกว่าเมื่อปีที่แล้ว” ตอนที่ ทรัมป์ กล่าวสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีที่ลานเนชันแนลมอลล์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
“ผมไม่รู้นะว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ จะยอมรับหรือเปล่า”
คำพูดจิกกัดแบบเบาๆ ของ คาร์เตอร์ เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้ฟังที่มหาวิทยาลัยลิเบอร์ตีซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาคริสเตียน และอธิการบดีคนปัจจุบัน เจอร์รี ฟอลเวลล์ จูเนียร์ ก็เป็นผู้สนับสนุน ทรัมป์ ตัวยง
ภาพจากสถานีโทรทัศน์ในขณะนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ชาวอเมริกันที่ไปให้กำลังใจ ทรัมป์ ในพิธีสาบานตนเมื่อต้นปี 2017 มีจำนวนน้อยกว่าเมื่อคราวที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา สาบานตนเมื่อปี 2008
เมื่อถูกเปรียบเทียบมากๆ เข้า ทรัมป์ ก็สั่งให้โฆษกทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ ออกมาตอบโต้ ซึ่ง สไปเซอร์ ก็สร้างความพิศวงงงงวยแก่สื่อมวลชนด้วยการโม้แบบไม่แคร์หลักฐานว่า “นี่เป็นจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนที่เยอะที่สุด ทั้งที่มาด้วยตัวเอง และรับชมผ่านสื่อทั่วโลก”
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ให้คะแนนคำพูดของ สไปเซอร์ เท่ากับ “พิน็อกคิโอ 4 ตัว” หรือแปลง่ายๆ ว่า “สุดยอดแห่งการโกหก” พร้อมระบุว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่พิธีสาบานตนของ ทรัมป์ จะมีคนน้อย เนื่องจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตมานมนาน และมีประชาชนที่โหวตให้ ทรัมป์ แค่ 4%
แม้จะมีความเป็นเดโมแครตเต็มตัว แต่ คาร์เตอร์ ก็ไม่ได้วิจารณ์ ทรัมป์ ว่าเลวร้ายไปเสียทุกเรื่อง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขายอมรับว่านโยบายคนเข้าเมืองของ ทรัมป์ “อาจมีข้อดีอยู่บ้าง” และปีที่แล้วก็แสดงท่าทีเต็มใจหากรัฐบาลจะมอบหมายให้เป็นทูตพิเศษเจรจากับเกาหลีเหนือ