เอเจนซีส์ - ทหารอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ที่มาเข้าร่วมการประท้วงบริเวณชายแดนกาซาในวันจันทร์ (14 พ.ค.) ช่วงที่อเมริกาเปิดสถานทูตประจำอิสราเอลในเยรูซาเล็ม
"วันนี้เราได้เปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในเยรูซาเล็ม อิสราเอล" เดวิด ฟรีดแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล กล่าวในพิธีเปิดสถานทูต โดยมีผู้แทนจากสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำอิสราเอลเข้าร่วมพิธี
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทหารอิสราเอลได้ใช้ปืนยิงชาวปาเลสไตน์ที่มาประท้วงบริเวณชายแดนกาซา ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 41 ราย
ถือเป็นตัวเลขสูงที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงที่ชายแดนอิสราเอลอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม และนับตั้งแต่เกิดสงครามกาซาในปี 2014
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 900 รายได้รับบาดเจ็บ โดยมีประมาณ 450 รายที่บาดเจ็บจากกระสุนจริง
คนนับหมื่นแห่กันมาประท้วงที่บริเวณชายแดน บางรายบุกประชิดเข้าไปถึงรั้วของอิสราเอล ซึ่งเป็นแนวเส้นที่เหล่าผู้นำอิสราเอลเคยบอกว่าไม่ยอมให้ฝ่าเข้ามาเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็มีควันดำลอยโขมงจากการเผายางของผู้ประท้วง
ผู้ประท้วงพากันขว้างปาก้อนหิน บางรายก็ใช้หนังสติ๊กยิงใส่กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลที่ใช้แก๊ซน้ำตาและปืนยิงใส่ผู้ประท้วง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้รับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับชาวปาเลสไตน์เป็นอย่างมาก