เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - อิสราเอลออกปฏิบัติการโจมตีอย่างดุเดือดและกว้างขวางในซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดี (10 พ.ค.) โดยมุ่งเล่นงานเป้าหมายหลายสิบแห่งที่ถูกระบุว่าเป็นบรรดาโครงสร้างทางทหารของอิหร่าน ทั้งนี้หลังจากมีจรวดยิงใส่กองกำลังของตนซึ่งรัฐยิวประณามว่าเป็นฝีมือของเตหะราน ถือเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าศัตรูคู่อาฆาต 2 รายนี้กำลังเพิ่มระดับความเป็นปรปักษ์กันอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศซีเรียก็แถลงว่า การที่อิสราเอลระดมถล่มใส่ดินแดนของตนเช่นนี้ คือการเข้าสู่ “ระยะใหม่” ที่รัฐยิวเข้าเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามกลางเมืองซีเรียซึ่งดำเนินมา 7 ปี
เหตุการณ์คราวนี้ปะทุขึ้นมาหลังจากความตึงเครียดที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลายสัปดาห์หลังๆ มานี้ อีกทั้งเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เมื่อวันอังคาร (8) อันเป็นความเคลื่อนไหวซึ่งอิสราเอลรบเร้ามานานแล้ว
ทางด้านรัสเซีย, ฝรั่งเศส, และเยอรมนี ต่างเร่งรีบออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจ “การเพิ่มระดับความบานปลายในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังมานี้ แสดงให้เราเห็นว่านี่เป็นเรื่องถึงขั้นที่จะตัดสินว่าจะมีสงครามหรือสันติภาพอย่างแท้จริงแล้ว” นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีกล่าวเตือน
การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มติดตามสถานการณ์ระบุว่าสังหารนักรบฝ่ายหนุนรัฐบาลซีเรียตายไป 23 คนนั้น คือการปฏิบัติการทหารครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของอิสราเอลในระยะไม่กี่ปีหลังๆ นี้ และก็ถือเป็นการถล่มเล่นงานครั้งใหญ่ที่สุดต่อพวกเป้าหมายที่เป็นของอิหร่าน ฝ่ายทหารของอิสราเอลระบุ
“เราโจมตีใส่พวกโครงสร้างของอิหร่านเกือบทุกๆ แห่งในซีเรียทีเดียว” รัฐมนตรีกลาโหม อาวิกดอร์ ลีเบอร์แมน ของรัฐยิวกล่าวในที่ประชุมด้านความมั่นคง “ผมหวังว่าเรามาถึงจุดยุติของเหตุการณ์นี้แล้ว และทุกๆ ฝ่ายต่างมีความเข้าอกเข้าใจกันแล้ว”
ขณะที่คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศซีเรียซึ่งเผยแพร่ผ่านสำนักข่าวซานาของทางการกล่าวว่า “การเผชิญหน้าโดยตรงเช่นนี้ (ของอิสราเอล) … เป็นสัญญาณถึงการเริ่มต้นของระยะใหม่ในสงครามซีเรีย” พร้อมกับเตือนว่า “พฤติการณ์ก้าวร้าวรุกราน (ของอิสราเอล) … จะไม่นำไปสู่อะไรอื่นนอกจากการเพิ่มความตึงเตรียดในภูมิภาค” อีกทั้งเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ”
อิสราเอลอ้างว่าได้ทำการโจมตีในซีเรีย หลังจากที่มีจรวด 20 ลูก ซึ่งมีทั้งที่เป็นแบบ “ฟัจร์” และแบบ “กราด” ถูกยิงจากซีเรียเข้าใส่กองทหารอิสราเอลในที่ราบสูงโกลาน อันเป็นดินแดนของซีเรียซึ่งอิสราเอลยึดครองเอาไว้หลายสิบปีแล้ว เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนวันพุธ (9)
ทั้งนี้รัฐยิวประณามว่าผู้ที่ยิงจรวดเหล่านี้เข้ามาคือกองกำลัง “อัล-กุดส์” ของอิหร่าน และบอกด้วยว่าระบบป้องกันอาวุธปล่อยของอิสราเอลสามารถสกัดจรวดเหล่านี้ได้ 4 ลูก ขณะที่เหลือไม่ได้ตกใส่ดินแดนของตน และไม่มีชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บเลย
ถ้าเรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว ก็ถือเป็นครั้งแรกที่อิหร่านได้หาทางโจมตีโดยตรงใส่ดินแดนที่อิสราเอลยึดครองอยู่ นอกเหนือจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งกล่าวหากันว่าเป็นความพยายามที่จะใช้โดรนเข้าโจมตีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“เรารู้ว่ามันมาจากกองกำลังอัล-กูดส์” พันโท โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าว โดยหมายถึงกองกำลังหน่วยรบพิเศษซึ่งสังกัดอยู่กับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน “ผู้ที่ออกคำสั่งและบัญชาการคือ กอสเซ็ม สุไลมานี (ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์) แต่ก็ไม่สำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้”
ด้านกลุ่มสังเกตการณ์ชาวซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นกลุ่มเฝ้าติดตามสถานการณ์การสู้รบในซีเรียโดยอาศัยสายข่าวในพื้นที่ แถลงว่ามีจรวดหลายสิบลูกถูกยิงจากซีเรียไปทางที่ราบสูงโกลานส่วนซึ่งอิสราเอลยึดครองอยู่ แต่ไม่ได้ยืนยันว่ากองกำลังอิหร่านคือผู้ยิง
กลุ่มนี้บอกว่ามีการยิงจรวดเหล่านี้ หลังจาก “ตอนแรกเลยอิสราเอลได้ถล่มทิ้งระเบิดใส่เมืองบาธ” ในจังหวัดกูเนตรา
ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายทหารอาวุโสของฝ่ายรัฐบาลซีเรียรายหนึ่งยืนยันกับเอเอฟพีว่า มีการถล่มจรวดใส่ที่ราบสูงโกลานจริง แต่เป็นเพราะอิสราเอลเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน
ในเวลาต่อมา ตอนช่วงก่อนรุ่งสางวันพุธ (9) มีเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้งในกรุงดามัสกัส ขณะที่ภาพถ่ายทอดสดๆ ที่เผยแพร่ทางทีวีแสดงให้เห็นว่ามีวัตถุเหมือนอาวุธปล่อยเคลื่อนที่อยู่เหนือเมืองหลวงซีเรีย และมีอาวุธปล่อยหลายลูกถูกระบบต่อต้านอากาศยานของซีเรียยิงทำลาย
สื่อทางการซีเรียรายงานว่า อาวุธปล่อยของอิสราเอลได้ถล่มใส่ฐานทัพทางทหารหลายแห่ง ตลอดจนคลังอาวุธแห่งหนึ่ง และสถานีเรดาร์ทางทหารอีกแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้ระบุที่ตั้งอย่างเฉพาะเจาะจง
สำนักข่าวซานาของทางการบอกด้วยว่า มีอาวุธปล่อยที่ยิงเข้ามาหลายสิบลูกถูกยิงตกโดยระบบต่อต้านอากาศยานในน่านฟ้าซีเรีย โดยยอมรับว่ามีอาวุธปล่อยจำนวนหนึ่งของข้าศึกยิงมาถึงเป้าหมายของพวกเขา
กองทัพอิสราเอลแถลงยืนยันในเวลาต่อมาว่าได้ดำเนินการโจมตีจริง โดยถล่มใส่เป้าหมายต่างๆ ราว 70 เป้าหมาย และเครื่องบินทั้งหมดของตนเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
คอนริคัส โฆษกกองทัพรัฐยิวบอกว่า เป้าหมายเหล่านี้มีทั้งสถานที่ตั้งทางด้านข่าวกรอง, สถานที่ตั้งทางด้านการส่งกำลังบำรุง, คลังและโกดังต่างๆ, ยานพาหนะ, และแหล่งที่มาของจรวดซึ่งใช้ยิงโจมตีอิสราเอล
โฆษกผู้นี้คุยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย ซึ่งได้ยิงใส่กองกำลังอิสราเอลหลายสิบครั้ง ก็ตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีด้วย
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า เครื่องบินอิสราเอลแบบ เอฟ-15 และเอฟ-16 รวม 28 ลำเข้าร่วมในการโจมตีคราวนี้ โดยมีการยิงอาวุธปล่อยทั้งสิ้นราว 70 ลูก