รอยเตอร์ - คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนจีน และเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จากการยืนยันของสื่อมวลชนแห่งรัฐทั้งสองชาติในวันอังคาร (8 พ.ค.) นับเป็นการพบปะกันครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางการประสานงานทางการทูตที่ช่วยคลี่คลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
การพูดคุยกันระหว่างสองผู้นำในวันจันทร์ (7 พ.ค.) และวันอังคาร (8 พ.ค.) ในเมืองต้าเหลียน เกิดขึ้นก่อนการประชุมนัดประวัติศาสตร์ระหว่าง คิม กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ทางทำเนียบขาวระบุว่าอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในเดือนนี้
จีนหวังแสดงบทบาทที่ขาดไม่ได้สำหรับความพยายามเสาะหาทางออกที่ยั่งยืนคลี่คลายความตึงเครียดที่เกิดจากความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ด้วยความกังวลว่าผลประโยชน์ของพวกเขาอาจถูกมองข้าม โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือและสหรัฐฯสถาปนาการติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยตรง
คำแถลงยืนยันเพิ่งมีออกมาหลังจากการพบปะกันสิ้นสุดลง โดยในคำแถลงนั้นเผยด้วยว่า คิม บอกกับ สี เขาหวังว่าฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องจะใช้มาตรการที่เป็นขั้นตอนและสอดคล้องกัน เพื่อทำให้การปลดนิวเคลียร์และสันติภาพที่ยั่งยืนในคาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นจริง
สำนักข่าวซินหัวรายงานด้วยว่า คิม บอกกับ สี ต่อว่า การปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรคือจุดยืนที่แน่วแน่และชัดเจนของเกาหลีเหนือ และการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ อาจสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน
คิม เดินทางมาพร้อมกับน้องสาว คิม โยยอง ซึ่งรับบทบาทเป็นผู้นำพารัฐบาลเกาหลีเหนืออ้าแขนเปิดรับโลกภายนอกเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ขณะที่สื่อมวลนแห่งรัฐของจีนเผยแพร่ภาพ คิม มีสีหน้ายิ้มแย้มระหว่างพบปะกลางแจ้งกับ สี และภาพที่ทั้งสองผู้นำเดินพูดคุยไปตามริมฝั่ง
ซินหัว รายงานต่อว่าประธานาธิบดีสี บอกกับคิม กลับไปว่าเขาสนับสนุนยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือในการเปลี่ยนเส้นทางมุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ "จีน สนับสนุนให้เกาหลีเหนือธำรงไว้ซึ่งคำประกาศปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทร และสนับสนุนเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯคลี่คลายประเด็นคาบสมุทรผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ" สีกล่าว
สื่อมวลชนแห่งรัฐของเกาหลีเหนือระบุว่า คิม รู้สึกปลาบปลื้มมากที่ความสัมพันธ์กับจีนกำลังอยู่ในระดับสูง และเกาหลีเหนือจะร่วมมือกับจีนด้วยความกระตือรือร้นยิ่งขึ้น ในขณะที่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีได้เปลี่ยนไปแล้ว "ทั้งสองผู้นำเปิดใจสนทนากันและพูดคุยกันอย่างอบอุ่น" เคซีเอ็นเอรายงาน
การพบปะกันครั้งนี้คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำเกาหลีเหนือที่ช่วยคลี่คลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้อย่างฉับพลัน และมันยังเกิดขึ้นหลังจาก คิม เพิ่งประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์กับ มุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้แล้วมันยังเกิดขึ้นหลังจาก คิม ซุ่มเงียบเดินทางโดยขบวนรถไฟเดินทางเยือนปักกิ่งเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งนับเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2011
อย่างไรก็ตามในการเดินทางวันอังคาร (8 พ.ค.) คิม ใช้เครื่องบินประจำตำแหน่ง บินในระยะทางสั้นๆมายังเมืองต้าเหลียน ซึ่งเชื่อว่ามันคือการเยือนต่างประเทศด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกของ คิม นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้าสู่อำนาจ
คิม จองอิล บิดาของ คิม จองอึน กลัวการขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นจึงมีข่าวลือว่า คิม จองอึน อาจมีอาการแบบเดียวกันและมีความเป็นไปได้ที่ไม่อยากเดินทางไกลในการพบปะกับทรัมป์ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำแถลงเกี่ยวกับสถานที่ที่จะใช้จัดประชุมซัมมิตระหว่างทั้งสอง ด้วยเขตปลอดทหารซึ่งกั้นกลางระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ รวมถึงสิงคโปร์ เป็นตัวเต็งลำดับต้นๆที่อยู่ในข่ายได้รับการพิจารณา
ตลอดทั้งวันอังคาร(8พ.ค.) มีข่าวลือบนเว็บไซต์ต่างๆของจีนว่าผู้นำกาหลีเหนืออยู่ในประเทศจีน แม้กระทรวงการต่างประเทศของปักกิ่งบอกก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาไม่มีข้อมูลและสื่อมวลชนแห่งรัฐก็ไม่ได้นำเสนอข่าวใดๆ
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค สื่อมวชนของญี่ปุ่น เผยแพร่ภาพเครื่องบินเกาหลีเหนือ 2 ลำ กำลังเคลื่อนที่อยู่บนแท็กซี่เวย์ของสนามบินต้าเหลียน โดยลำหนึ่งเป็นเครื่องบินของแอร์โครยอ ส่วนอีกลำประดับสัญลักษณ์ของเกาหลีเหนือ ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ของจีนพากันโพสต์ข้อมูลว่าพบเห็นรถติดหนักผิดปกติและมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมืองต้าเหลียน