รอยเตอร์ - ปารากวัย จะย้ายสถานทูตประจำอิสราเอล ไปยังเยรูซาเลมในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จากการเปิดเผยของโฆษกรัฐบาลปารากวัยและกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลในวันจันทร์(7พ.ค.) ความเคลื่อนไหวที่เดินตามย่างก้าวของสหรัฐฯและกัวเตมาลา
"โฮราซิโอ การ์เตส ประธานาธิบดีปารากวัย มีแผนเดินทางมายังอิสราเอลในช่วงปลายเดือน เพื่อเปิดสถานทูตในเยรูซาเลม" เอ็มมานูเอล นาห์ชอน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลกล่าวในถ้อยแถลง
ด้านโฆษกรัฐบาลปารากวัย ยืนยันว่า การ์เคน มีกำหนดการเดินทางเยือนอิสราเอล เพื่อย้ายสถานทูต ในวันที่ 21 หรือ 22 พฤษภาคมนี้
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่สหรัฐฯจะทำการเปิดสถานทูตในเยรูซาเลมวันที่ 14 พฤษภาคม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับรองเมืองแห่งนี้ในฐานะเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปีก่อน
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯสร้างความปิติยินดีแก่อิสราเอล แต่ขณะเดียวกันก็กระพือความโกรธเคืองจากปาเลสไตน์
อิสราเอลยึดเยรูซาเลมตะวันออกมาจากการควบคุมของจอร์แดน ระหว่างสงครามตะวันออกกลางปี 1967 และผนวกมันเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แม้ไม่ได้การรับรองจากนานาชาติ ขณะที่การเจรจาสันติภาพรอบล่าสุดเกี่ยวกับรัฐปาเลสไตน์ในเวสต์แบงค์และฉนวนกาซาพังครืนลงในปี 2014
ฝ่ายอิสราเอลบอกว่าเยรูซาเลมคือเมืองหลวงชั่วนิรันดร์และไม่อาจแย่งแยกได้ของพวกเขา ส่วนปาเลสไตน์มองพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองแห่งนี้ ในฐานะเมืองหลวงของรัฐอิสระของพวกเขาในอนาคต
เมื่อเดือนมีนาคม จิมมี โมราเลส ประธานาธิบดีกัวเตมาลา เผยว่าประเทศของเขาจะย้ายสถานทูตจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเลมในวันที่ 16 พฤษภาคม 2 วันหลังสหรัฐฯทำการเคลื่อนย้าย
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอ้างในเดือนเมษายนว่า มีหลายสิบประเทศกำลังพิจาณราอย่างจริงจังเกี่ยวกับการย้ายสถานทูตตามสหรัฐฯ แต่เขาไม่ได้ระบุชื่อประเทศเหล่านั้น
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯมีขึ้นแม้ว่าเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน สมาชิกสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ 128 ประเทศ ได้มติแบบไม่ผูกพัน เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกา เพิกถอนการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยมีเพียง 9 ชาติที่โหวตต่อต้าน และงดออกเสียง 35 ประเทศ