xs
xsm
sm
md
lg

InClips: อื้อฉาว!! คนใกล้ตัวทรัมป์แอบจ้าง “สายลับยิว” หาหลักฐานจัดฉากป้ายสีข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านสมัยโอบามา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - สื่อดิออฟเซิร์ฟเวอร์ พบผู้ช่วยของผู้นำสหรัฐฯแอบว่าจ้างบริษัทข่าวกรองเอกชนยิวเมื่อพฤษภาคมปีที่ผ่านมา จัดฉากสร้างหลักฐานป้ายสีคนสำคัญในสมัยรัฐบาลโอบามาที่ช่วยการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน  เบน โร๊ดส์(Ben Rhodes ) หนึ่งในที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโอบามา และ คอลิน คาห์ล(Colin Kahl) รองผู้ช่วยของโอบามา หวังสั่นคลอนความน่าเชื่อถือข้อตกลงนิวสเคลียร์อิหร่าน

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(5 พ.ค) ว่า ดิออฟเซิร์ฟเวอร์เปิดเผยล่าสุดถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดการข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของคนใกล้ตัวผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเปิดเผยเกิดขึ้นก่อนเส้นตายที่ทรัมป์ตั้งไว้วันที่ 12 พ.ค ที่สหรัฐฯเลือกจะถอนตัวจากข้อตกลงหรือจะยังคงเดินหน้าทำตามข้อตกลงต่อไป

ทั้งนี้แจ็ค สตรอว์(Jack Straw) รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ซึ่งเกี่ยวข้องในช่วงแรกๆของการจำกัดอาวุธอิหร่านกล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องอื้อฉาวที่แปลกประหลาดที่น่าฉงน ซึ่งถือเป็นการเปิดโปงให้เห็นถึงความสิ้นหวังเป็นอย่างมากของทรัมป์และ(นายกรัฐมนตรีอิสราเอล) เบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งความพยายามไม่ได้ทำให้ข้อตกลงนั้นมัวหมองมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้”

ด้านหนึ่งในนักการทูตอังกฤษระดับสูงที่มีประสบการณ์สูงในด้านการเจรจาสันติภาพมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่ต้องการที่จะเผยตัว ได้กล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้ “

“ถือเป็นสิ่งที่บ้ามากที่ทำเรื่องนี้ ประเด็นของข้อตกลงทั้งหมดไม่ใช่การทำเรื่องป้ายสีเช่นนี้”

สื่ออังกฤษรายงานว่า แหล่งข่าวที่มากกว่า 1 คนเปิดเผยว่าทีมของทรัมป์ได้ติดต่อกลุ่มเจ้าหน้าที่สืบสวนไม่กี่วันหลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯเยือนกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล 1 ปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างแดนครั้งแรกของทรัมป์ในฐานะผู้นำสหรัฐฯในเวลานั้นทรัมป์ได้ให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลว่า อิหร่านจะไม่มีวันมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในมือเด็ดขาด

และทรัมป์ชี้ว่า พวกอิหร่านคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ตามความต้องการนับตั้งแต่ข้อตกลงนิเคลียร์อิหร่านนับตตั้งแต่ปี 2015

ซึ่งแหล่งข่าว 1 คนที่รู้เรื่องแคมเปญป้ายสีสกปรกของทีมทรัมป์กล่าวให้ความเห็นว่า “แผนก็คือกลุ่มคนที่กระทำเพื่อทรัมป์จะทำการป้ายสีบรรดากลุ่มคนที่เดินหน้าในการขายความคิด ทำให้มันง่ายเข้าเพื่อที่จะถอนออกไป”

อ้างอิงจากเอกสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อดิสเครดิตซึ่งสื่อดิออฟเซิร์ฟเวอร์เป็นผู้พบ บรรดากลุ่มเจ้าหน้าที่สอบสวนซึ่งถูกว่าจ้างโดยบริษัทข่าวกรองเอกชนยิว ถูกสั่งให้ค้นหาประวัติชีวิตทั้งด้านส่วนตัวและทางด้านการทำงานของ เบน โร๊ดส์(Ben Rhodes ) อดีตผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งโร๊ดส์เป็นอดีตผู้ช่วยด้านความมั่นคงประเทศด้านการสื่อสารทางยุทธศาสตร์ และคอลิน คาห์ล(Colin Kahl) ที่ปรึกษาความมั่นคงของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน

พบว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สอบสวนเหล่านี้ต้องการหาข้อมูลความสัมพันธ์ส่วนบุคคล และความเกี่ยวข้องกับล็อบบี้ยิสต์อิหร่าน และตรวจสอบว่าคนเหล่านี้ได้ผลประโยชน์หรือไม่ทั้งด้านส่วนบุคคลและการเมืองจากข้อตกลงสันติภาพนิวเคลียร์อิหร่าน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สอบสวนของบริษัทข่าวกรองยิวยังถูกสั่งให้ติดต่อชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านที่มีชื่อเสียง และสื่อสารมวลชนที่เข้าข้างข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน โดยได้ให้รายชื่อค่ายสื่อมวลชนสหรัฐฯ เป็นต้นว่า ตั้งแต่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ไปจนถึงสถานีโทรทัศน์เMSNBC สื่อออนไลน์ ดิแอตแลนติก เดอะว็อกซ์ (The Vox) รวมไปถึงหนังสือพิมพ์อิสราเอล Haaretz ที่ได้ติดต่อกับคนทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ เป็นความพยายาม เดอะการ์เดียนชี้ ที่เจ้าหน้าที่บริษัทข่าวกรองยิวจะสืบหาว่า อดีตผู้ช่วยในสมัยรัฐบาลโอบามาได้ละเมิดการปฎิบัติในการที่แอบให้ข่าวกรองความลับแก่สื่อเหล่านี้หรือไม่

ทั้งนี้พบว่า พวกเขาได้ตรวจพบการให้ความเห็นของโร๊ดส์ในปี 2016 บนหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ที่ชายผู้นี้ “ยอมรับ” ว่าเขาจำเป็นต้องพึ่ง “บรรดานักข่าวที่ไร้ประสบการณ์” ในการสร้างแรงผลักดันขึ้นเพื่อให้เกิดผลต่อความเห็นสาธารณะไปในแนวทางการสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ ชี้ว่า แคมเปญป้ายสีของทีมทรัมป์ ยังรวมไปถึงความพยายามต้องการทราบว่า โร๊ดส์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่หนุนหลัง จากการร้องขอของ ซูซาน ไรซ์ (Susan Rice) อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯประจำทำเนียบขาวคนสุดท้ายในชุดรัฐบาลโอบามา ในการเปิดเผย “ชื่อ” ของกลุ่มเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการเปลี่ยนผ่านการบริหารสหรัฐฯในสมัยก่อนพิธีสาบานตนของทรัมป์ ที่ถูกสอดแนมจากการเกี่ยวข้องการสอดแนมกลุ่มเป้าหมายบุคคลต่างชาติหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษชี้ว่า ทั้งโร๊ดส์และคาห์ลต่างยอมรับว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการจ้างบริษัทยิวเพื่อหาข้อมูลสำหรับการทำให้คนทั้งคู่เสื่อมเสียชื่อเสียง และสื่ออังกฤษชี้ว่า ไม่ทราบว่าแคมเปญป้ายสัสกปรกนั้นมีเป้าหมายไปถึงอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของโอบามา จอห์น เคร์รีย์ ด้วยหรือไม่

สตรอว์ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษระหว่าง 2001 – 2006 กล่าวถึงแผนการสปกรกนี้ว่า

“แคมเปญดิสเครดิต JCPOA นั้นเกิดมาจากข้อมูลที่เป็นเท็จและการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งนี่เป็นโอกาสดีที่สุดในการรับประกันว่าอิหร่านจะไม่มีวันพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และถือเป็นเรื่องบ้าคลั่งที่ให้มีการยกเลิกข้อตกลงนี้ ที่ไม่มีสิ่งใดดีนอกเหนือไปจากทำให้ความมั่นคงของโลกเป็นอันตราย”





กำลังโหลดความคิดเห็น