เอเอฟพี - ทางการรัฐฮาวายของสหรัฐฯ สั่งอพยพประชาชนนับหมื่นคน หลังภูเขาไฟคิลาเว (Kilauea) เริ่มปะทุพ่นเถ้าถ่านสู่ท้องฟ้า และปลดปล่อยธารลาวาผ่านรอยแยกของแผ่นดินไหลเข้าสู่เขตชุมชนเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.)
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) และศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวฮาวายได้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ เพื่อประเมินการปะทุของภูเขาไฟซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวต่อเนื่องหลายสิบครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
สื่อท้องถิ่นเผยภาพธารลาวาสีส้มที่ไหลเป็นทางผ่านผืนป่า ขณะที่สำนักงานป้องกันพลเรือนฮาวายรายงานว่า มี “ไอน้ำและลาวาปะทุขึ้นจากรอยแยกบนถนนโมฮาลาในเขตไลลานี” และสั่งให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงรีบอพยพทันที
USGS รายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันเดียวกันได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 แมกนิจูดทางตอนใต้ของปากปล่องพูโอ (Puu Oo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาไฟคิลาเว และอาจมีชั้นหินพังถล่มลงไปในปากปล่อง
“กลุ่มเถ้าถ่านที่เกิดขึ้นชั่วระยะสั้นๆ จากเหตุการณ์นี้กำลังแพร่กระจายไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของพูโอ... และใครก็ตามที่อยู่ใต้ลมอาจได้รับผลกระทบ” คำเตือนจาก USGS ระบุ
บริเวณปากปล่องภูเขาไฟคิลาเวปรากฏกลุ่มเถ้าถ่านสีอมชมพูลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และทางการได้แจ้งเตือนอันตรายจาก “ธารลาวาไหลท่วม ไฟไหม้ กลุ่มควัน รวมถึงแผ่นดินไหว” ที่อาจเกิดซ้ำอีก
ชาวบ้านในพื้นที่ยังต้องระวังความเสี่ยงจากการสะสมของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมถึงการระเบิดของก๊าซมีเทนซึ่งอาจทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่หรือเศษหินลอยไปตกในพื้นที่ใกล้เคียง
เดวิด อิเก ผู้ว่าการรัฐฮาวาย มีคำสั่งให้กองกำลังเนชันแนลการ์ดเริ่มปฏิบัติภารกิจ และขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งเตือนจากสำนักงานป้องกันพลเรือนอย่างใกล้ชิด ขณะที่สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งรัฐฮาวายได้เปิดศูนย์ชุมชนแห่งหนึ่งเป็นที่พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย
USGS ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟคิลาเวจาก “เฝ้าติดตาม” เป็นการ “เตือน” หลังตรวจพบรอยแยกใหม่ๆ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (3)
ไลลานี เอสเตตส์ อยู่ในเขตรอยแยกทางตะวันออกบนเกาะใหญ่ที่สุดของรัฐฮาวาย (Eastern Rift Zone) ซึ่งศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวฮาวายเคยตรวจพบ “การเคลื่อนที่ของแมกมา” และได้เตือนชาวบ้านในพื้นที่แล้วว่า กิจกรรมแผ่นดินไหวและการปะทุของภูเขาไฟอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาโดยไม่มีสัญญาณเตือน