เอเจนซีส์ – ไต้หวันฉุนขาด จวกจีนใช้แพ็คเกจการลงทุนและเงินกู้มูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์ฟาดหัวโดมินิกันให้ตัดความสัมพันธ์กับตน เตือนชาติพันธมิตรที่ยังเหลืออยู่ให้ระวังกับดักหนี้และการเบี้ยวสัญญาความช่วยเหลือของปักกิ่ง ขณะเดียวกันมีการคาดเดากันว่า วาติกันอาจเป็นรายต่อไปที่หันไปสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับพญามังกรแทน
ปัจจุบัน ไต้หวันที่จีนถือเป็นเพียงมณฑลขบถของตนนั้น มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับเพียง 19 ประเทศ หลายประเทศเหล่านี้เป็นประเทศยากจนในอเมริกากลางและแปซิฟิก เช่น เบลีซและนาอูรู
หลายปีมานี้จีนและไต้หวันพยายามแย่งชิงพันธมิตรกัน ซึ่งบ่อยครั้งใช้แพ็คเกจความช่วยเหลือก้อนโตล่อใจ โดยที่ไทเปเป็นฝ่ายเสียเปรียบปักกิ่งที่ทรงอิทธิพลกว่าในทุกด้าน
ปีที่แล้ว ปานามายุติความสัมพันธ์กับไต้หวันอันถือเป็นชัยชนะสำคัญสำหรับจีน และมีความเป็นไปได้ว่า วาติกันอาจเป็นเป้าหมายถัดไป เนื่องจากขณะนี้สันตะสำนักและปักกิ่งใกล้ตกลงกันได้เรื่องการแต่งตั้งสังฆนายกในจีน
ในวันอังคาร (1 พ.ค.) โจเซฟ วู รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือดต่อข่าวการเปลี่ยนใจของสาธารณรัฐโดมินิกันที่ประกาศครึกโครมทั้งในปักกิ่งและซานโตโดมิงโกว่า ประธานาธิบดีแดนิโล เมดินาของโดมินิกัน มองข้ามความสัมพันธ์ยาวนาน 77 ปีกับไต้หวัน ความต้องการของประชาชน รวมทั้งความช่วยเหลือที่ไต้หวันมอบให้นานนับปี เพื่อยอมรับการลงทุนและความช่วยเหลือซึ่งเป็นคำสัญญาลวงจากจีน
“ไต้หวันขอประณามการตัดสินใจที่น่ารังเกียจของจีนในการใช้การทูตสอดไส้มาตรการทางการเงินเพื่อเปลี่ยนใจพันธมิตรของไต้หวัน ความพยายามของปักกิ่งในด้านนโยบายทางการทูตรังแต่เสี้ยมให้เกิดความแตกแยกระหว่างประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน บ่อนทำความไว้วางใจระหว่างกัน และทำให้คนไต้หวันเสียความรู้สึกอย่างรุนแรง” วูแถลงยาวเหยียด
เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของกระทรวงต่างประเทศไต้หวันเผยว่า จากการคำนวณเบื้องต้นคาดว่า จีนเสนอแพ็คเกจการลงทุน ความช่วยเหลือทางการเงิน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมูลค่ารวมอย่างน้อย 3,100 ล้านดอลลาร์ให้โดมินิกัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไทเปสู้ไม่ไหว และเงินจำนวนดังกล่าวครอบคลุมเงินทุน 400 ล้านดอลลาร์สำหรับฟรีเวย์สายใหม่, 1,600 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 300 ล้านดอลลาร์สำหรับโรงงานไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่
วูสำทับว่า จีนเคยผิดสัญญากับอดีตพันธมิตรทางการทูตของไต้หวันหลายชาติ ซึ่งรวมถึงคำมั่นในการให้ความช่วยเหลือมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์แก่เซาตูเมและปรินซิปีเมื่อปลายปี 2016 พร้อมเตือนประเทศกำลังพัฒนาให้ระวังกับดักหนี้หากตกลงคบค้าสมาคมกับจีน
นอกจากนี้ วูยังยืนยันว่า แม้จีนและวาติกันตกลงกันได้เรื่องสังฆนายก แต่ความสัมพันธ์ของไต้หวันกับวาติกันไม่ถือว่า มีอันตรายเฉพาะหน้าแต่อย่างใด
จีนกดดันไต้หวันต่อเนื่องนับจากการเลือกตั้งในปี 2016 ที่ส่งให้ ไช่ อิง-เหวิน จากพรรคเดโมเครติก โปรเกรสซีฟที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราช ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงแดนมังกรน้อย ทำให้ปักกิ่งกลัวว่า ไช่จะผลักดันการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ทว่า เจ้าตัวยืนยันว่า ต้องการคงสถานะดั้งเดิมไว้
ทางด้านสำนักประธานาธิบดีไต้หวันแถลงว่า แม้ต้องเผชิญความท้าทาย แต่รัฐบาลจะไม่ยอมก้มหัวให้ปักกิ่ง และจะทำทุกทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ขณะที่สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันเรียกร้องให้จีนยุติการดำเนินการยั่วยุด้วยการเพิ่มการกดดันทางการเมืองและการทหารอย่างสุดขั้วต่อไต้หวัน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของโดมินิกันไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย
ที่ปักกิ่ง กระทรวงต่างประเทศจีนยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการดำเนินการทางการเมืองโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขทางเศรษฐกิจล่วงหน้า แต่สำทับว่า ขณะนี้จีนและโดมินิกันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันแล้ว และจีนจะส่งเสริมความร่วมมือที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายในทุกภาคส่วน
ระหว่างการแถลงข่าวที่จัดขึ้นอย่างเร่งรีบ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ยกย่องโดมินิกันว่าตัดสินใจถูกแล้วและสอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศและประชาชน
เมื่อเดือนมีนาคม หวังเคยระบุว่า เพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุด พันธมิตรทางการทูตที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของไต้หวันควรตระหนักถึง “แนวโน้มที่ไม่อาจต้านทาน” หันหลังให้ไทเปและมาผูกมิตรกับ “จีนเดียว” แทน
เว็บไซต์ของประธานาธิบดีโดมินิกันเผยแพร่แถลงการณ์ที่ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีขึ้นหลังการพิจารณาและหารือยาวนานโดยคำนึงถึงความต้องการและศักยภาพของประเทศเป็นหลัก และว่า แม้ตอนที่ยังไม่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน จีนก็เป็นผู้จัดหาสินค้านำเข้าใหญ่อันดับ 2 ของโดมินิกันอยู่แล้ว
ฟลาวิโอ ดาริโอ เอสปินัล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของประธานาธิบดีโดมินิกัน เสริมว่า โดมินิกันตระหนักดีว่า การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมาพร้อมศักยภาพการขยายตัวของความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างมโหฬาร รัฐบาลซาบซึ้งในความร่วมมือนานหลายปีกับไต้หวัน ทว่าประวัติศาสตร์และความเป็นจริงด้านเศรษฐกิจและสังคม กดดันให้โดมินิกันต้องเปลี่ยนเส้นทาง โดมินิกันตระหนักว่า โลกมีเพียงจีนเดียว และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ของจีน