รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยันหลักฐานที่ “อิสราเอล” กล่าวโทษอิหร่านซุกโครงการลับนิวเคลียร์เป็น “ของจริง”

เอเจนซีส์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ยอมรับวานนี้ (30 เม.ย.) ว่าชุดข้อมูลข่าวกรองที่อิสราเอลนำมาเปิดเผยเพื่อยืนยันว่าอิหร่านยังคงรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์นั้นเป็น “ของจริง” และมีหลายเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ เองก็ไม่ทราบมาก่อน

พอมเพโอ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลที่กองบัญชาการกองทัพอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (29) และได้ทราบข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับหลักฐานชุดนี้ ซึ่งถูกเผยแพร่หลังจากที่เขาเดินทางกลับวอชิงตันแล้ว

“เราทราบเกี่ยวกับหลักฐานเหล่านี้มาสักระยะแล้ว และผมก็ได้หารือกับท่านนายกฯ ตอนที่พบกันเมื่อวานนี้ (29)” พอมเพโอ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนขณะอยู่บนเครื่องบิน “มันเป็นงานที่ทำกันมาสักพักแล้ว บางคนอาจจะคิดว่าเอกสารพวกนี้ไม่ใช่ของจริง แต่ผมยืนยันได้ว่าจริง เป็นของจริงแน่นอน”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐฯ ทราบมานานหลายปีแล้วใช่หรือไม่ว่าอิหร่านเคยมีโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ลับที่เรียกว่า “อามาด” (Amad) ช่วงก่อนปี 2004 พอมเพโอ ก็ตอบว่า “ก็จริงบางส่วน โครงการอามาดปิดตัวลงในราวๆ เดือน ธ.ค.ปี 2003 ถึง ม.ค.ปี 2004”

“ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นที่รู้กันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็มีเอกสารใหม่ๆ และข้อมูลใหม่อีกหลายพันฉบับ”

“เรากำลังตรวจสอบหลักฐานเหล่านี้อยู่ และมีหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อพิสูจน์ว่าขอบเขตและขนาดของมันใหญ่โตแค่ไหน แต่มีข้อมูลใหม่ๆ แน่นอน”

เนทันยาฮู ได้นำเสนอหลักฐานภาพถ่ายและวิดีโอเพื่อพิสูจน์ว่าอิหร่านยังคงรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับนิวเคลียร์ ทั้งที่ลงนามในข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2015

"ประการแรกคือ อิหร่านโกหกว่าไม่เคยมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่เอกสารลับ 100,000 แผ่นพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ประการที่สองคือ หลังจากมีข้อตกลงนิวเคลียร์แล้ว อิหร่านก็ยังคงพิทักษ์และขยายองค์ความรู้เกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาสำหรับใช้งานในอนาคต และประการที่ 3 คือ อิหร่านโกหกอีกครั้งในปี 2015 เมื่อพวกเขาไม่ได้ชี้แจงต่อทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ตามกฎของข้อตกลงนิวเคลียร์"

ฝ่ายที่สนับสนุนข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะถอนตัวภายในวันที่ 12 พ.ค. นี้ เชื่อว่าข่าวกรองของ เนทันยาฮู เป็นแค่ข้อมูลเก่าเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์อิหร่านในอดีต และไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเตหะรานละเมิดข้อตกลงปี 2015

อย่างไรก็ตาม พอมเพโอ แย้งว่าหลักฐานของอิสราเอลมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการถกเถียงในเวลานี้

“ผมเชื่อว่าหลักฐานเหล่านี้จะช่วยระบุขอบเขตและขนาดของโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่อิหร่านเคยทำ และอย่างน้อยที่สุดมันก็ยืนยันได้ว่า รัฐบาลอิหร่านยังโกหกประชาชนของตัวเองอยู่” เขากล่าว

“อิหร่านอ้างมาโดยตลอดว่าไม่เคยมีโครงการลักษณะนี้ แต่หลักฐานชุดนี้จะหักล้างคำพูดที่ว่าไม่เคยมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์”

พอมเพโอ ระบุด้วยว่า ทรัมป์ จะต้องพิจารณาว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์หรือไม่ในมุมมองของสหรัฐฯ ส่วนเอกสารข่าวกรองของอิสราเอลนั้นกำลังถูกตรวจสอบโดยนักวิเคราะห์และล่ามชาวอเมริกัน