เอเจนซีส์ – อดีตเผด็จการทหารย ลุยซ์ การ์เซีย เมซา (Luis Garcia Meza)ที่มีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก รวมไปถึง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการใช้ศาลเตี้ย ในช่วงระหว่างปกครองโบลิเวีย เสียชีวิตในวันอาทิตย์(29 เม.ย) จากปัญหาระบบการหายใจล้มเหลวในขณะที่มีอายุ 88 ปี
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(29 เม.ย)ว่า ถึงแม้ว่า ลุยซ์ การ์เซีย เมซา (Luis Garcia Meza) จะขึ้นมาบริหารโบลิเวียเป็นระยะเวลา 13 เดือนหลังการทำรัฐประหารโคเคน(Cocaine Coup)ที่ถูกร่ำลือไปทั่วจากการที่แก๊งลักลอบค้ายาเสพติดหนุนหลังเมือปี 1980 แต่รัฐบาลของเขาสร้างชื่อด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งร้ายแรง รวมไปถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การตั้งศาลเตี้ย และการใช้วิธีทรมานอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ในวันอาทิตย์(29) พบว่าอดีตเผด็จการทหารโบลิเวียรายนี้เสียชีวิตลงในวัย 88 ปี จากปัญหาระบบหายใจล้มเหลว ซึ่งในปี 1993 ศาลสูงสุดโบลิเวียได้ออกคำตัดสินสั่งจำคุกเขาเป็นเวลา 30 ปี แต่จนกระทั่งในเดือนมีนาคม 1995 การ์เซีย เมซา จึงถูกจับตัวได้ในบราซิล และได้ถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษในโบลิเวีย
ซึ่งหลังจากคำสั่งจำคุกของศาลสูงสุดโบลิเวียถูกออกมา กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆได้ออกมาสรรเสริญในเวลานั้นว่า ถือเป็นย่างก้าวใหม่ในประวัติศาตร์ของความจริงและความยุติธรรมในแถบครึ่งโลกที่ผู้เล่นเผด็จการทหารแทบจะไม่เคยต้องรับโทษต่อการนำการรัฐประหาร อ้างอิงแถลงการณ์ที่ออกมาจากกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชต่อคดีของอดีตผู้นำเผด็จการโบลิเวียในเวลานั้น
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา ศาลในกรุงโรมออกคำตัดสินจำคุกการ์เซีย เมซา และคนอื่นอีก 7 คนซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองอเมริกาใต้ หรืออดีตผู้นำทางการทหารต่อการเสียชีวิตของชาวอิตาบีจำนวน 23 คนที่เกิดมาจากปฎิบัติการกวาดล้างอย่างป่าเถื่อนที่มาจากคำสั่งของอดีตผู้นำโบลิเวียรายนี้