รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และว่าที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ เดินทางไปยังเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้เข้าพบผู้นำ คิม จองอึน ซึ่งเขาได้สร้าง “ความสัมพันธ์อันดี” ขึ้นมา ระหว่างการหารือแผนการประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำของ 2 ประเทศ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยืนยันในวันพุธ (18 เม.ย.)
การไปเยือนรัฐโสมแดงของ ปอมเปโอ ในครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสสูงสุดของสหรัฐฯ ที่ได้พบกับผู้นำคิม และยังเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดว่า ทรัมป์ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นประธานาธิบดีในตำแหน่งคนแรกของอเมริกาที่ได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนือ
“ไมค์ ปอมเปโอ ได้พบกับคิม จองอึน ในเกาหลีเหนือสัปดาห์ที่แล้ว การพบปะราบรื่นมากและมีการสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมา ตอนนี้กำลังมีการจัดทำรายละเอียดของการประชุมซัมมิต การปลดอาวุธนิวเคลียร์จะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับโลก และก็สำหรับเกาหลีเหนือด้วย!” ทรัมป์โพสต์ข้อความเช่นนี้ในทวิตเตอร์ในวันพุธ (18)
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายกล่าวเมื่อวันอังคาร (17) ว่า ปอมเปโอไปเกาหลีเหนือช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ คือ 31 มี.ค. ถึง 2 เม.ย.
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า ซูห์ ฮุน หัวหน้าสำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ เป็นผู้นัดหมายผ่าน คิม ยองชอล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของเกาหลีเหนือ เรื่องการไปเยือนของ ปอมเปโอ เพื่อดูลาดเลาว่าผู้นำ คิม พร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐฯ อย่างจริงจังหรือไม่
ปอมเปโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาซึ่ง ทรัมป์ ไว้วางใจที่สุดกลับมารายงานให้ผู้นำสหรัฐฯ ทราบว่า การประชุมซัมมิตครั้งนี้ “คุ้มค่า” ที่จะจัด แต่ยังไม่มีการตกลงเรื่องสถานที่พบปะหรือกำหนดการเดินทาง
ทางด้านทรัมป์ แถลงในวันอังคาร (17) ภายหลังพบหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ที่รีสอร์ตส่วนตัวของทรัมป์ในมลรัฐฟลอริดา ว่าสหรัฐฯ มีการพูดคุยโดยตรงกับ “เจ้าหน้าที่ระดับสูงมาก” ของเกาหลีเหนือเพื่อเตรียมการประชุมซัมมิตระหว่างเขากับ คิม
คำพูดเช่นนี้ทำให้บางคนตีความว่า ทรัมป์ ได้พูดกับผู้นำโสมแดงโดยตรง ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาชี้แจงเพิ่มเติมภายหลังว่า “ต่ำกว่าระดับสูงสุดนิดหน่อย”
ต่อมาซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว อธิบายเสริมว่า “ประธานาธิบดีต้องการจะสื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีการเจรจาระดับสูงสุด (กับเกาหลีเหนือ) แต่ไม่ใช่ตัวท่านโดยตรง”
ในการตอบข้อซักถามของคณะกรรมการวุฒิสภาเพื่อผ่านกระบวนการรับรองตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ปอมเปโอ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการประชุมซัมมิตระหว่าง ทรัมป์ และ คิม จะช่วยให้การแก้ไขปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือมีความคืบหน้า แต่ทุกคนก็ตระหนักดีว่าคงจะไม่ถึงขั้นบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบ
ปอมเปโอ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่ไปเยือนเกาหลีเหนือถัดจาก เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเคยไปเป็นทูตเจรจาขอปล่อยตัวพลเมืองอเมริกันเมื่อปี 2014
ทรัมป์ ซึ่งเคยเปิดสงครามน้ำลายกับ คิม มาตลอด 1 ปีที่แล้ว ระบุในวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันกำลังพิจารณาสถานที่จัดประชุมซึ่งเป็นไปได้ 5 แห่ง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยู่ในสหรัฐฯ บ้างหรือไม่ ก็ได้รับคำยืนยันว่า “ไม่ใช่” ขณะเดียวกันเขาเตือนด้วยว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ซัมมิตนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นมา
เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งให้ข้อมูลเสริมว่า สถานที่ที่อยู่ในการพิจารณานั้นมีทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป
ในอีกด้านหนึ่ง เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ก็กำลังเตรียมการสำหรับการประชุมซัมมิตระหว่างคิม จองอึน กับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของโสมขาว ในวันที่ 27 เดือนนี้ โดยเจ้าหน้าที่ระดับท็อปผู้หนึ่งของทำเนียบประธานาธิบีดเกาหลีใต้ได้บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงโซลวันพุธ (18) ว่า ในการเจรจาคราวนี้เป็นไปได้ว่าจะมีการพูดถึงการเปลี่ยนจากข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้ในช่วงสงครามเกาหลี (ปี 1950-53) ยุติลง ให้กลายเป็นสัญญาสันติภาพอย่างถาวร
ระหว่างพูดกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร ทรัมป์ได้พูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน โดยบอกว่าเขาสนับสนุนความพยายามของสองเกาหลีที่มุ่งหมายจะยุติภาวะสงครามเช่นนี้