(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
China-Japan ties take cautious step forward
By Asia Times staff
17/04/2018
รัฐมนตรีต่างประเทศจีนไปเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยที่การพบปะหารือกันในกรุงโตเกียวคราวนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้ง 2 ประเทศยังคงมีความไม่ลงรอยกันในประเด็นปัญหาเกาหลีเหนือ
จีนกับญี่ปุ่นแสดงออกซึ่งความพยายามที่จะขยับขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีของพวกเขาให้คืบหน้าไปเมื่อวันอาทิตย์ (15 เม.ย.) ที่ผ่านมา เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศพบปะหารือกันที่กรุงโตเกียว ซึ่งในตัวมันเองก็ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญประการหนึ่งอยู่แล้ว ก่อนหน้าการประชุมระดับซัมมิตไตรภาคี ซึ่งจะมีผู้นำเกาหลีใต้มาเข้าร่วมด้วยอีกชาติหนึ่ง จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้
ครั้งนี้คือการไปเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบระยะเวลาเกือบ 1 ทศวรรษของบุคคลระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุง และการที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของแดนมังกร จะเดินทางไปเข้าร่วมซัมมิตไตรภาคี (กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้) ในเดือนหน้า ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นมานานแล้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาหารือในวันอาทิตย์ (15 เม.ย.) คราวนี้ ยังคงไม่ได้มีการกำหนดวันเวลาที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น (ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.asahi.com/ajw/articles/AJ201804160034.html)
รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน ซึ่งปัจจุบันได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นมนตรีแห่งรัฐ (State Councilor ในระบบการเมืองของจีนถือว่าเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี ) ควบไปด้วยนั้น มีรายงานว่าไม่ได้แสดงความสนใจที่จะช่วยเหลือญี่ปุ่นในการหยิบยกชูประเด็นปัญหาเกาหลีเหนือลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นไปหลายคน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของอาซาฮีซึ่งอ้างแหล่งข่าวในวงการทูตรายหนึ่ง โดยบุคคลผู้นี้บอกว่า ความพยายามของจีนในเวลานี้ มุ่งโฟกัสเน้นหนักอยู่ที่การนำเอาญี่ปุ่นเข้าร่วมขบวนในการมีปฏิสัมพันธ์ทางการทูตกับฝ่ายเกาหลีเหนือ
“โลกกำลังเคลื่อนตัวไปสู่การสนทนากับเกาหลีเหนือ” บุคคลผู้นี้บอก “ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ญี่ปุ่นควรจะเดินไปตามแนวโน้มดังกล่าว”
ทางด้านนักวิชาการชาวจีนผู้หนึ่งชี้ว่า ปักกิ่งยังคงมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับแรงจูงใจของนายกรัฐมนตรีอาเบะของญี่ปุ่น ในเรื่องการปรับปรุงสายสัมพันธ์กับจีน
“อาเบะยังไม่ได้พูดในรายละเอียดว่าเขาต้องการนำพาความสัมพันธ์ที่ญี่ปุ่นมีอยู่กับจีนก้าวไปถึงที่ไหน” รายงานข่าวของอาซาฮีอ้างคำพูดของแหล่งข่าวรายนี้ “เมื่อเปรียบกับลักษณะอาการในเชิงรุกมากกว่านี้ซึ่งเขากำลังแสดงออกในความพยายามที่จะแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ตกค้างมาในประวัติศาสตร์กับรัสเซีย อย่างเช่น กรณีพิพาทดินแดนภาคเหนือ (Northern Territories dispute หมายถึงกรณีพิพาทช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะคูริล ที่อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น) แล้ว ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้มีความจริงจังเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับจีนถึงระดับนั้น”