เอเอฟพี – กองทัพซีเรียประกาศว่า กองกำลังต่อต้านรัฐบาลได้ออกจากจังหวัดกูตาตะวันออกไปหมดแล้ว หลังจากการจู่โจมนานสองเดือนในพื้นกบฏแห่งนี้รอบนอกเมืองหลวง
ประกาศนี้ซึ่งถือเป็นชัยชนะทางยุทศาสตร์ครั้งสำคัญสำหรับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสหรัฐฯนำปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายรัฐบาลซีเรียเพื่อตอบสนองต่อการใช้อาวุธเคมีในเมืองดูมาของจังหวัดนี้
“ผู้ก่อการร้ายทั้งหมดได้ออกไปจากดูมา แหล่งกบดานสุดท้ายของพวกเขาในกูตาตะวันออกแล้ว” สำนักข่าวซานาของทางการ อ้างคำพูดของโฆษกกองทัพเมื่อวานนี้ (14) โดยใช้คำที่รัฐบาลมักเรียกกลุ่มกบฏ
“หลายพื้นที่ในกูตาตะวันออกในแถบชนบทของดามัสกัสปลอดจากผู้ก่อการร้ายอย่างสิ้นเชิงแล้ว” โฆษกกองทัพยังกล่าวในถ้อยแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทางการด้วย
เมื่อช่วงต้นปี กูตาตะวันออกเป็นพื้นที่กึ่งชนบทที่อยู่ไม่ไกลจากดามัสกัสทางตะวันออก มีผู้อยู่อาศัยเกือบ 400,000 คนที่อยู่ภายใต้การปิดล้อมของรัฐบาลนานหลายปีทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาคาร ยา และสิ่งของอื่นๆ
รัฐบาลซีเรียและกองกำลังพันธมิตรเปิดฉากการโจมตีครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์เพื่อยึดคืนเขตนี้ซึ่งไม่อยู่ในการปกครองของรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2012
การทิ้งระเบิดอย่างหนักสังหารพลเรือนราว 1,700 คนอ้างจากกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ที่มีฐานในอังกฤษ และทำลายพื้นที่นี้จนยับเยิน รวมทั้งทำให้ชุมชนหลายแห่งเหลือแต่ซาก
ดามัสกัสถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองดูมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน ส่วนสุดท้ายของเขตนี้ที่กลุ่มกบฏไม่ได้ทำข้อตกลงอพยพพวกเขาไปยังตอนเหนือของซีเรียโดยมีรัสเซียเป็นคนกลาง
สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษตอบสนองเมื่อวานนี้ (14) ด้วยการโจมตีสถานที่เก็บอาวุธเคมีของรัฐบาลก่อนรุ่งสาง
หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรได้ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะกลับสู่วิธีทางการทูต โดยได้เริ่มความพยายามครั้งใหม่ที่องค์การสหประชาชาติเพื่อสืบสวนการใช้อาวุธเคมีในประเทศนี้
ทีมผู้เชี่ยวชาญจากองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons) อยู่ในดามัสกัสและคาดว่าจะสืบสวนสถานที่ที่ต้องสงสัยว่ามีการใช้อาวุธเคมี