รอยเตอร์ – วันนี้(13 เม.ย) ประธานาธิบดีหญิงไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ร่วมตรวจการซ้อมรบของกองทัพเป็นครั้งแรกที่นอกชายฝั่งตะวันออก เกิดขึ้น 1 วันหลังจากรัฐบาลปักกิ่งแถลง การซ้อมรบกระสุนจริงบริเวณช่องแคบไต้หวัน และผู้นำจีนเข้าร่วมชมการซ้อมรบแสดงแสนยานุภาพจีนในทะเลพิพาท
รอยเตอร์รายงานวันนี้(13 เม.ย)ว่า ทั้งนี้การซ้อมรบของกองทัพไต้หวันที่มีขึ้นในวันศุกร์(13) เป็นการซ้อมรบที่ไม่มีการใช้กระสุนจริง เกิดขึ้นไม่นานการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของปักกิ่งครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และทางปักกิ่งยังประกาศแผนในการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณช่องแคบไต้หวันวันพุธ(18)
ซึ่งทางปักกิ่งอ้างว่า ไต้หวันถือเป็นส่วนหนึ่งของจีนภายใต้นโยบายจีนเดียว และทางปักกิ่งไม่เคยประกาศยกเลิกการใช้กองกำลังในการที่จะนำส่วนหนึ่งของดินแดน ซึ่งเป็นจังวัดที่ห่างไกล ให้กลับเข้ามาภายใต้การปกปกครองของจีนอีกครั้ง
ทั้งนี้พบว่าประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวินได้เข้าร่วมชมการซ้อมรบของกองทัพครั้งแรกที่บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออก โดยเธอได้ขึ้นเรือรบนอกชายฝั่งซูอ๋าว( Suao)
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวผ่านแถลงการณ์ถึงการซ้อมรบว่า มีเป้าหมายเพื่อทดสอบความสามารถในการตอบโต้เร็วของกำลังพลในการที่จะปกป้องไต้หวัน
รอยเตอร์รายงานว่า การเข้าร่วมสังเกตการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ไช่เข้าร่วมนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำไทเปเมื่อปี 2016
ไช่ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพไต้หวันกล่าวในขณะที่อยู่บนเรือรบ หลังจากที่การซ้อมรบเสร็จสิ้นแล้วว่า “ดิฉันเชื่อว่า พลเมืองของเราสมควรต้องรู้สึกเชื่อมั่นเป็นอย่างมากต่อความมุ่งมั่นของกองทัพของพวกเราในการต่อสู้และป้องกันประเทศของเรา”
“กองทัพสามารถเป็นเครื่องปกป้องให้แก่ไต้หวัน” ไช่เสริม และชี้ว่า กำหนดการเดินทางเยือนประเทศสวาซิแลนด์ ในทวีปแอฟริกาใต้ที่มีกำหนดเริ่มตั้งแต่วันอังคารไปจนถึงวันที่ 21 เดือนนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากปักกิ่งสั่งซ้อมรบด้วยการใช้กระสุนจริง
และเมื่อนักข่าวถามไช่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เพื่อแข่งกับประธานาธิบดีสี จิ้งผิงหรือไม่ ทำให้ผู้นำไต้หวันตอบกลับมาว่า อย่าวิเคราะห์สถานการณ์เกินความเป็นจริง พร้อมชี้ว่า นี่เป็นการเริ่มต้นการร่วมสังเกตการณ์ของเธอ
รอยเตอร์รายงานว่า ในสัปดาห์นี้ ปักกิ่งออกมาแสดงความกังวลหลังจากที่สหรัฐฯอนุมัติอนุมัติขายอาวุธให้กับไต้หวัน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติไลเซนซ์ทางการตลาดที่จะอนุญาตให้ทางบริษัทอาวุธสหรัฐฯสามารถขายเทคโนโลยีให้ไต้หวันในการต่อเรือดำน้ำของตัวเอง
ซึ่งประธานาธิบดีหญิงประกาศในวันศุกร์(13)ว่า การได้มาซื่งไลเซนซ์ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการที่ไต้หวันจะสร้างกองเรือรบของตัวเอง