ซีเอ็นเอ็น - รัฐบาลจีนมีปฏิกิริยาที่เป็นกังวลต่อการที่โตเกียวจัดตั้งกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกซึ่งจะมีบทบาทคล้ายกับ “นาวิกโยธิน” เป็นครั้งแรกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้กำลังพลดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อปัดเป่าการรุกรานเกาะต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลของญี่ปุ่นก็ตาม
ญี่ปุ่นและจีนมีข้อพิพาทกันมานานเกี่ยวกับหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนตะวันออกมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์หนือหมู่เกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่แห่งหนึ่งที่ปักกิ่งเรียว่าเตี้ยวหยู ส่วนญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็นกากุ
กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นเปิดตัวกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบนเคลื่อนที่เร็ว (Amphibious Rapid Deployment Brigade - ARDB) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการสำแดงแสนยานุภาพทางทหาร แถวๆเมืองซาเซโบะ บนแหลมทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะคิวชู
ระหว่างการเปิดตัว กองกำลังชุดใหม่ในชุดลายพรางราว 1,500 นายได้โชว์การฝึกฝนต่อหน้าสาธารณะ จำลองการจู่โจมเพื่อชิงเกาะแห่งหนึ่งกลับคืนมาจากผู้รุกราน โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ขณะที่กองกำลังนี้ถือเป็นหน่วยนาวิกโยธินแรกของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ในบทบรรณาธิการของหนังสิอพิมพ์แท็บลอยด์ โกลบัล ไทมส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน ฉบับเมื่อวันอาทิตย์ (8 เม.ย.) แนะว่าเอเชียจำเป็นต้องจับตาสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การฟื้นฟูลัทธิทหารของญี่ปุ่น”
“มีข้อสงสัยว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจกำลังคิดใช้การปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นข้ออ้างสำหรับฟื้นฟูลัทธิทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคต้องเฝ้าระวังขั้นสูง” บทความระบุ
ความตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่นปะทุขึ้นเป็นปกติจากข้อพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนตะวันออก ในนั้นรวมถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2017 ที่กองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งของปักกิ่งแล่นเข้าไปใกล้หมู่เกาะเหล่านั้น โหมกระพือสงครามน้ำลายทางการทูตระหว่างสองชาติ
โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในวันจันทร์ (9 เม.ย.) ว่าความเคลื่อนไหวทางทหารของญี่ปุ่นจะถูกพวกเพื่อนบ้านในเอเชียติดตามอย่างใกล้ชิด “สืบเนื่องจากเหตุผลทางประวัติศาสตร์”
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและโตเกียว ตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดมาตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อันมีต้นตอจากญี่ปุ่นรุกรานจีนแผ่นดินใหญ่
กองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบนเคลื่อนที่เร็ว ถูกแถลงเปิดตัวโดย อิตสึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกลาโหมที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม โดยเขาบอกว่ากองกำลังดังกล่าวจะประกอบด้วยกำลังพลราว 2,100 นาย “ในกรณีที่มีเหตุรุกรานเกาะที่อยู่ห่างไกล กองกำลังชุดนี้มีหน้าที่จะต้องยกพลขึ้นเกาะอย่างฉับพลัน เพื่อยึดคืนและปกป้องมัน”
ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความประสงค์มานานว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพของประเทศที่รับมาใช้ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเปิดทางให้ญี่ปุ่นมีกองทัพได้ โดยในเดือนพฤษภาคม 2017 อาเบะ บอกว่าเขาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวและต้องการบังคับใช้ฉบับปรับปรุงใหม่ภายในปี 2020
ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าวต่างๆ นานาของ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าของญี่ปุ่น ทำให้เสียงคร่ำครวญขอให้แก้รัฐธรรมนูญของอาเบะ ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีกำลังทหารที่เรียกกันว่ากองกำลังป้องกันตนเอง แต่รัฐธรรมนูญห้ามพวกเขาใช้กำลังคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การฟื้นกองทัพของญี่ปุ่นก่อข้อถกเถียงในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนและเกาหลีใต้ สืบเนื่องจากความอ่อนไหวต่อบทบาทของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2