เอเอฟพี – เกิดเหตุโจมตีทางอากาศรอบใหม่ที่เขตกูตาตะวันออก ชานเมืองกรุงดามัสกัสอีกครั้งในวันอาทิตย์(8 เม.ย) กลุ่มสังเกตการณ์ชี้ เกิดขึ้น 1 วันหลังรัฐบาลอาซาดใช้อาวุธเคมี "ก๊าซคลอรีน" ในวันเสาร์(7 เม.ย) กับฝ่ายตรงกันข้าม ท่ามกลางความวิตกจากประชาคมโลก ยอดเสียชีวิตตั้งแต่วันศุกร์(6 เม.ย)ร่วม 80 รายเป็นอย่างน้อย
เอเอฟพีรายงานวันนี้(8 เม.ย)ว่า การโจมตีทางอากาศวันอาทิตย์(8) เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานสัญญาหยุดยิง และความเป็นไปได้ในการกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งระหว่างรัฐบาลประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด และกลุ่มกบฎเญซุลอิสลาม (Jaish al-Islam) ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายที่อยู่ในพื้นที่กูตาตะวันออก
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า การโจมตีเมื่อวานนี้(8) เกิดขึ้น 1 วันหลังข้อกล่าวหาการใช้ก๊าซคลอรีน ซึ่งเป็นอาวุธเคมีที่ถูกห้ามใช้ ของอัสซาดต่อฝ่ายตรงกันข้าม ทำให้ประชาคมโลกวิตกกังวล แต่ทว่าสื่อรัฐบาลซีเรีย และรัฐบาลรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรต่างออกมาประณาม โดยชี้ว่า เป็นการป้ายสี
เอเอฟพีรายงานว่า กองกำลังอัสซาดเปิดฉากโจมตีเมืองโดมา(Douma)ฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายกบฏในเขตกูตาตะวันออกเมื่อวันศุกร์(6)หลังจากการเจรจาเพื่อเคลื่อนย้ายนักรบกลุ่มกบฏล้ม
ซึ่งพบว่าอัสซาดใช้กองกำลังเข้าสังหาร และทั้ง 2 ฝ่ายตกลงถอนตัวในการที่จะไม่เข้าครอบครองพื้นที่ 95 % ของเขตกูตาตะวันออก ซึ่งเคยเป็นพื้นที่กลุ่มกบฎซีเรียหลักเคยเข้าครอบครองจ่อจมูกอัสซาดติดกรุงดามัสกัดมาแล้วในอดีต
ที่ดูเหมือนว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เมืองโดมาคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในเมืองอื่นๆด้วยการอพยพจำนวนหลายร้อยคนของสมาชิกกลุ่มกบฎและครอบครัวของคนเหล่านั้น แต่มีรายงานถึงการไม่ลงรอยของมุ้งที่อยู่ภายในกลุ่มกบฎที่เห็นว่า ฝ่ายสายเหยี่ยวของกบฏเญซุลอิสลามไม่ยอมที่จะย้ายออกมา
เอเอฟพีรายงานว่า SOHR กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชนที่มีฐานอยู่ในอังกฤษกล่าวว่า นับตั้งแต่วันศุกร์(6) หลังจากรัฐบาลซีเรียบุกเข้าพื้นที่ทางอากาศ พบว่ามีพลเรือนไม่ต่ำกว่า 80 รายเสียชีวิต
นอกจากนี้ SOHR ยังรายงานถึงการพบคนในพื้นที่จำนวนหลายสิบคนมีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจหลังการโจมตีผ่านพ้นไป แต่ไม่สามารถชี้ได้ถึงสาเหตุ แต่ทว่ากลุ่มเดอะ ไวท์ เฮลเมตส์(The White Helmets)ซึ่งเป็นกลุ่มกู้ภัยทางการแพทย์ในพื้นที่เขตอิทธิพลของฝ่ายกบฎในซีเรีย เป็นผู้ออกมาชี้ว่า ***กองกำลังรัฐบาลอัสซาดใช้ก๊าซพิษคลอรีน*** ในการทำสงคราม
ซึ่งวิดีโอคลิปที่ถูกโพสต์ออนไลน์ของทางกลุ่ม แต่เอเอฟพีชี้ว่า ไม่สามารถตรวจสอบความแท้จริงได้ แสดงให้เห็นถึง ทั้งเหยื่อ รวมไปถึงเด็ก มีของเหลวสีขาวลักษณะเหมือนโฟมไหลออกมาทางปาก
นอกจากนี้เอเอฟพีชี้ว่า ยังมีการรายงานขัดแย้งถึงยอดตัวเลขการเสียชีวิตจากการใช้กาซพิษคลอรีนโจมตี อย่างไรก็ตาม หน่วยกู้ภัย เดอะ ไวท์ เฮลเมตส์ ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ระหว่าง 40 –70 ราย
ส่วน SOHR กล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตราว 11 รายในช่วงสุดสัปดาห์ รวมไปถึงเด็กจำนวน 4 คนที่เสียชีวิตเนื่องจากปัญหาระบบหายใจล้มเหลวหลังการโจมตีสิ้นสุดลง
ด้านโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “รายงานเหล่านี้ หากเป็นความจริง จะกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว และจำเป็นต้องได้รับการตอบโต้ทันทีจากทางประชาคมโลก”
และแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “รัฐบาลอัสซาดและกลุ่มที่สนับสนุนต้องรับผิดชอบ” ซึ่งในแถลงการณ์ที่ระบุชื่อไปถึงรัสเซียกล่าวต่อว่า “รัสเซีย และการสนับสนุนที่อย่างมั่นคงต่อรัฐบาลซีเรีย ต้องรับผิดชอบอย่างสูงสุดต่อการโจมตีอย่างป่าเถื่อนเหล่านี้”
เอเอฟพีกล่าวว่า พลเอกยูริ เยฟตูเชนโก(Yuri Yevtushenko) หัวหน้าศูนย์รัสเซียด้านการประนีประนอมต่อทุกฝ่ายในสงครามซีเรียออกมาปฎิเสธต่อข้อกล่าวหา
“ทางฝ่ายเราพร้อม เมื่อเมืองโดมาเป็นอิสระจากกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในการส่งหน่วยเชี่ยวชาญด้านรังสี เคมี และชีววิทยา ของการป้องกันประเทศรัสเซียเข้าไป เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น” พลเอกเยฟตูเชนโกให้สัมภาษณ์ผ่านการรายงานของสำนักข่าวรัสเซีย
นอกจากนี้เอเอฟพีชี้ว่า เช้าวันนี้(8) ยังมีความเคลื่อนไหวใหม่เมื่อคณะกรรมการพลเรือนที่เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาระหว่างกลุ่มกบฎซีเรียและรัสเซียได้ประกาศ “ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และการกลับเข้าสู่โต๊ะการเจรจาวันนี้” ซึ่งหวังว่าจะสามารถนำไปสู่สนธิสัญญาสุดท้ายได้สำเร็จ
และสำนักข่าวทางการซีเรีย ซานา ยังรายงานถึงการเจรจาวันอาทิตย์(8)ว่า จะเกิดขึ้นนานหลายชั่วโมง
