รอยเตอร์ - รัสเซียกล่าวเตือนอังกฤษผ่านที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ว่า “กำลังเล่นกับไฟ และจะต้องเสียใจภายหลัง” จากการกล่าวหาว่ามอสโกวางยาพิษอดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซียและบุตรสาว
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้เปิดประชุมพิเศษตามคำเรียกร้องของมอสโก ซึ่งถือเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งที่ 2 ระหว่างอังกฤษกับรัสเซียในเวทียูเอ็น หลังจาก เซียร์เก สกรีปัล และบุตรสาว ยูเลีย ถูกโจมตีด้วยสารพิษทำลายประสาทที่เมืองซอลส์บรี (Salisbury) เมื่อวันที่ 4 มี.ค. โดยรัฐบาลหมีขาวยืนกรานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เหตุลอบสังหารครั้งนี้นำมาซึ่งคำสั่งขับทูตรัสเซียในหลายประเทศ ขณะที่มอสโกเองก็ออกมาตอบโต้ด้วยการขับไล่ทูตตะวันตกเช่นกัน
“เราได้แจ้งให้ทูตอังกฤษทราบแล้วว่า คุณกำลังเล่นกับไฟ และพวกคุณจะต้องเสียใจ” วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวในสุนทรพจน์ความยาวกว่า 30 นาที ซึ่งพยายามชี้ให้เห็นถึงความไม่สมเหตุสมผลในข้อกล่าวหาของอังกฤษ
เนเบนเซีย ชี้ว่า ใครก็ตามที่เคยดูละครแนวสืบสวนฆาตกรรมอย่าง Midsomer Murders ก็คงจะรู้ว่า “การฆ่าคนอย่างฉลาดๆ มีหลายร้อยวิธี” ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า วิธีที่อังกฤษอ้างว่ามอสโกใช้ลอบสังหาร สกรีปัล กับบุตรสาวนั้น “เสี่ยงและอันตราย” เพียงใด
สกรีปัล เป็นอดีตทหารยศพันเอกในสังกัดศูนย์บัญชาการข่าวกรองหลักของกองทัพรัสเซีย (GRU) เคยถูกตัดสินจำคุก 13 ปี เมื่อปี 2006 ในความผิดฐานเผยตัวตนสายลับรัสเซียหลายสิบคนให้แก่หน่วยข่าวกรอง MI6 ของอังกฤษ ก่อนจะได้รับการอภัยโทษในสมัยของประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ ตามโครงการแลกเปลี่ยนตัวสายลับระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียเมื่อปี 2010 ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในยุคหลังสงครามเย็น
ตำรวจอังกฤษเชื่อว่า มีใครบางคนนำสารพิษทำลายประสาทไปวางไว้ที่หน้าบ้านของ สกรีปัล ในเมืองซอลส์บรี ซึ่งเขากับลูกย้ายมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ได้รับอิสรภาพ
“เราเชื่อว่าการกระทำของอังกฤษพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ” คาเรน เพียร์ซ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำยูเอ็นกล่าว “เราไม่อะไรต้องปิดบัง... แต่ดิฉันเกรงว่ารัสเซียอาจกลัวอะไรบางอย่างอยู่”
ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ขอให้ผู้นำองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) เปิดประชุมฉุกเฉินที่กรุงเฮกในวันพุธ (4) และเสนอให้ตั้งคณะไต่สวนร่วมระหว่างมอสโกกับลอนดอนเพื่อสืบหาความจริงเรื่อง สกรีปัล ถูกวางยาพิษ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเนื่องจากเสียงสนับสนุนไม่พอ
“การอนุญาตให้นักวิทยาศาสตร์รัสเซียเข้ามาร่วมตรวจสอบ ทั้งๆ ที่รัสเซียคือผู้ต้องสงสัยหลักในอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในซอลส์บรี ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่สกอตแลนด์ยาร์ดไปเชิญศาสตราจารย์ มอริอาร์ตี มาร่วมสืบสวน” เพียร์ซ กล่าวต่อสื่อมวลชน โดยอ้างถึงตัวละครในนิยายสืบสวนชื่อดัง “เชอร์ล็อค โฮล์มส์”