xs
xsm
sm
md
lg

InPics:เม็กซิโกแก้ปัญหา “ให้วีซ่าชั่วคราว” คาราวานอพยพอเมริกากลาง - ทำเนียบขาวชี้นิ้ว “ผู้ว่าการรัฐชายแดน” ส่งเนชันแนลการ์ดพิทักษ์พรมแดนใต้ด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – รัฐบาลกลางเม็กซิโกเริ่มแจกวีซ่าชั่วคราวประเภท วีซ่าทรานซิต(transit visa ) เพื่อมนุษยธรรมแก่บรรดาผู้อพยพอเมริกากลางที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางการวิจารณ์อย่างหนักจากผู้นำสหรัฐฯที่ต้องการส่งกองกำลังทหารสหรัฐฯไปปกป้องพรมแดนทางใต้ และออกคำสั่งให้ผู้ว่าการรัฐต่างๆสั่งกองกำลังเนชันแนลการ์ดประจำรัฐของตนเองไปพิทักษ์พรมแดน

เอพีรายงานวันนี้(5 เม.ย)ว่า มีผู้อพยพบางส่วนตื่นขึ้นมาในค่ายผู้อพยพวันพุธ(4)พร้อมกับความหวังว่าจะสามารถขอลี้ภัยได้ในสหรัฐฯ และมีบางส่วนหวังว่าจะเกิดขึ้นในเม็กซิโก

ซึ่งหนึ่งในบรรดาผู้อพยพที่รอคือ เอลเมอร์ เซลายา โกเมซ( Elmer Zelaya Gomez) วัย 38 ปี จากเอลซัลวาดอร์ตะวันออกพร้อมกับภรรยาและบุตร 3 คน อายุ 7 ปี 13 ปี และ 14 ปี ที่ได้พักค้างคืนภายในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งในขณะที่กำลังรอวีซ่าชั่วคราวด้านมนุษยธรรมที่ทางรัฐบาลกลางเม็กซิโกสัญญาจะให้ เพื่อที่จะสามารถเดินทางต่อไปยังพรมแดนสหรัฐฯทางเหนือได้สำเร็จ ซึ่งทาง เซลายา โกเมซ ตั้งความหวังว่าจะสามารถขอที่ลี้ภัยจากสหรัฐฯ และจะสามารถไปพบกับญาติที่อยู่ในเมืองนิวยอร์กได้หลังจากนั้น

เซลายา โกเมซกล่าวให้ความเห็นว่า “พวกเราไม่ได้ต้องการออกมาจากประเทศของตัวเองเพราะพวกเราต้องการ” และเสริมว่า “แต่เพื่อสวัสดิภาพของเด็กๆ”

เอพีรายงานว่า เหมือนเช่นอีกหลายคน ครอบครัวของชายผู้นี้เข้าร่วมกับคาราวานผู้อพยพขนาดใหญ่ ที่ไม่มีใครคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนมหาศาลในตอนแรก ซึ่งพบว่าทางขบวนผู้อพยพมีกำหนดที่จะหยุดสุดท้ายที่การประชุมสิทธิผู้อพยพที่ถูกจัดขึ้นในรัฐปวยบลา(Puebla) ซึ่งเป็นรัฐตอนกลางทางใต้ของเม็กซิโก และหยุดลงที่กรุงเม็กซิโก ซิตี หลังจากนั้น

“มันเหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน ที่มีทั้งการลักพาตัว จี้ปล้น และอื่นๆ” และกล่าวต่อว่า “ดังนั้นจึงเป็นเรื่องค่อนข้างน่ากลัวหากต้องเดินทางโดยไม่ได้มากับขบวนคาราวาน”

เอพีชี้ว่า คาราวานผู้อพยพนี้ถูกจัดขึ้นทุกปี เหมือนเป็นงานเชิงสัญลักษณ์ที่ถูกจัดขึ้นในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความยากลำบากของกลุ่มผู้อพยพ แต่กระนั้นไม่เคยเดินทางออกไปนอกทางใต้ของเม็กซิโก แต่ทว่าผู้อพยพที่ร่วมเดินทางมา ต่างเดินทางต่อขึ้นทางเหนือของเม็กซิโกด้วยตัวพวกเขาเอง

ทั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิจารณ์ถึงการจัดงานคาราวาน และรัฐบาลเม็กซิโกที่อนุญาตให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ในขณะที่มีจำนวนมากที่เข้าร่วมต่างยืนยันว่าไม่มีความตั้งใจที่จะต้องการเดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ หลังจากสิ้นสุดคาราวาน “ สถานีแห่งไม้กางเขน” (Stations of the Cross) และมีบางคนถึงกับต้องการขอที่ลี้ภัยในเม็กซิโกด้วยตัวเอง

ในช่วงค่ำวันอังคาร(3) รัฐบาลกลางเม็กซิโกแถลงว่า นโยบายการเข้าเมืองของแดนจังโก้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความกดดัน แต่ชี้ว่า คาราวานเริ่มแยกย้ายเองจากการตัดสินใจของผู้เข้าร่วม และในแถลงการณ์รัฐบาลเม็กซิโกยังชี้ว่า มีผู้อพยพร้องขอวีซ่าชั่วคราว 465 คน ซึ่งมีจำนวน 230 คนถูกอนุมัติให้ได้วีซ่าทรานซิต ( transit visa ) และอีก 168 คนคาดว่าน่าจะได้วีซ่าประเภทอื่นเพื่อที่จะสามารถยังคงอยู่ในเม็กซิโกได้อย่างถูกกฎหมาย

ทั้งนี้ก่อนหน้าวันพุธ(4) สื่อซานฟรานซิสโกเอ็กแซมมิเนอร์รายงานว่า ทำเนียบขาวออกคำสั่งให้บรรดาผู้ว่าการรัฐชายแดนให้ส่งกองกำลังเนชันแนลการ์ดของตัวเองไปยังพรมแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา อ้างอิงจากการแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ คริสต์เจน นีลเซน(Kirstjen Nielsen)

“ประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังหงุดหงิด ต่อการไหลทะลักของการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย” นีลเซนกล่าวยืนยัน และเสริมว่า “เขาบอกอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้พรมแดนของเรามีความมั่นคง”

สื่อซานฟรานซิสโกชี้ว่า กองกำลังเนชันแนลการ์ดซึ่งเป็นกองกำลังทหารระดับรัฐไม่สามารถควบคุมกลุ่มผู้อพยพ แต่สามารถให้กำลังสนับสนุนแก่กองกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนสหรัฐฯ เหมือนกับเช่นที่เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลบุชเมื่อปี 2006 และในปี 2010 สมัยรัฐบาลโอบามา นีลเซนกล่าวยืนยัน

ซึ่งในความเห็นรัฐมนตรีหญิงของทรัมป์รายนี้ เธอกล่าวให้ความเห็นว่า ผู้อพยพส่วนมากที่ยื่นขอลี้ภัยเป็นพวกต้มตุ๋น และยังชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะร้องไปยังสภาคองเกรสให้ทำการแก้ไขกฎหมายการอพยพอเมริกา ให้กระบวนการมีความรวดเร็วมากขึ้น รวมไปถึงการเร่งเนรเทศออกไปนอกประเทศ

นีลเซนยังอ้างว่า นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศ แก๊งลักลอบผิดกฎหมายต้องหยุดลงชั่วคราว แต่แล้วกลุ่มพวกนี้เห็นช่องทางจากความสามารถของสหรัฐฯในการที่จะขับพวกเข้าเมืองผิดกฎหมายได้อย่างไม่รวดเร็วพอ “พวกนี้เห็นช่องโหว่ที่พวกเขาจะหาประโยชน์ได้” นีลเซน รัฐมนตรีหญิงกระทรวงเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯกล่าว

ทั้งนี้การเข้าเมืองและผู้อพยพถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯให้ความเอาจริงเอาจังเสมอ แม้แต่ในสมัยของรัฐบาลชุดเดโมแครตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เมื่อพบว่า มีผู้พิพากษาศาลผู้อพยพของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นทางสาธารณะจนเป็นที่ฮือฮาว่า เขาเชื่อมั่นว่า ***ผู้อพยพเด็กเล็กในวัย 3 -4 ขวบ*** สามารถให้การปกป้องตัวเองทางกฎหมายในศาลได้โดยที่ไม่ต้องมีทนายความแก้ต่างได้

โดยหนังสือพิมพ์แอเอไทม์สรายงานเมื่อวันที่ 6 มี.ค 2016 รายงานว่า ผู้พิพากษาศาลผู้อพยพสหรัฐฯ แจ็ค เวล (Jack Weil) ได้กล่าวให้ความเห็นในเวลานั้นว่า “ผมสอนกฎหมายผู้อพยพกับเด็กผู้อพยพวัย 3 ปี และ 4 ปี มันต้องใช้เวลามาก มันต้องใช้ความอดทนมาก” และกล่าวต่อว่า “พวกเด็กๆเข้าใจ มันไม่ใช่สิ่งที่ได้ผลเท่าใด แต่สามารถกระทำได้”

ทั้งนี้สื่อแอลเอไทม์สรายงานว่า เวลที่มีฐานอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย มีความรับผิดชอบที่ต้องให้การอบรมกับเพื่อนผู้ร่วมงาน เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการอพยพเข้าสหรัฐฯจำนวนมากของผู้อพยพเด็กๆที่เดินทางเข้าสหรัฐฯตามลำพังโดยที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาด้วย

แอลเอไทม์ให้ข้อมูลต่อว่า ภายในศาลผู้อพยพอเมริกา ไม่มีการให้หลักประกันใดๆในการให้คำปรึกษาต่อทั้งผู้ใหญ่หรือเด็ก ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุดคือ การที่บุคคลนั้นๆมีความสามารถในการตัดสินใจ และโอกาสที่บุคคลนั้นจะได้รับอนุญาตให้อาศัยในอเมริกาจะมีมากหากว่าบุคคลนั้นมีทนายความปรากฎตัวอยู่ข้างกายด้วย













กำลังโหลดความคิดเห็น