เอเจนซีส์ - ครูชาวอเมริกันหลายหมื่นคนในรัฐเคนทักกีและรัฐโอคลาโฮมา พากันทิ้งห้องเรียนออกไปเดินขบวนประท้วงตั้งแต่วันจันทร์ (2 เม.ย.) เรียกร้องขอขึ้นเงินเดือนและงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนรัฐเพิ่ม ครูบางคนบอกว่า ไม่เคยได้ขึ้นเงินเดือนเลยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บางคนต้องทำงานนอกเวลาเป็นพนักงานเสิร์ฟหรือรับตัดหญ้าเพื่อให้มีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ขณะที่นักเรียนของโรงเรียนบางแห่งระดมเงินบริจาคออนไลน์เพื่อซ่อมเพดานโรงเรียนและซื้อตำราเรียนที่ขาดรุ่งริ่งหมดสภาพ
ทั้งสองมลรัฐดังกล่าวเป็นพื้นที่ของพรรครีพับลิกัน และงบประมาณด้านการศึกษาถูกตัดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ผู้ประท้วงเหล่านี้ได้แรงบันดาลใจจากการนัดหยุดงานนาน 9 วันของครูในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียเมื่อเดือนที่แล้วกระทั่งได้ชัยชนะได้ขึ้นเงินเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี รวมทั้งครูในรัฐแอริโซนาซึ่งได้จัดการชุมนุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนเดียวกัน
แกนนำการชุมนุมคาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมราว 30,000 คนในโอกลาโฮมาซิตี เมืองหลวงของรัฐโอคลาโฮมา ขณะที่ภาพถ่ายมุมสูงซึ่งเผยแพร่ทางทีวีมองเห็นภาพฝูงชนจำนวนมาก หลายคนสวมเสื้อสีแดง รวมตัวกันอยู่หน้าที่ทำการรัฐบาลมลรัฐ
จอย ฮอฟเมสเตอร์ ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาของรัฐโอกลาโฮมา ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมครั้งนี้ต้องการเรียกร้องงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนรัฐบาลและฟื้นฟูการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ของเยาวชน
การผละงานของเหล่าครูนับหมื่นเมื่อวันจันทร์ทำให้หลายโรงเรียนต้องปิดทำการเนื่องจากไม่สามารถหาครูมาสอนแทนได้ ขณะที่อีกหลายโรงเรียนอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิอยู่แล้ว
นอกจากนั้น โรงเรียนในบางเขตการศึกษาอาจต้องปิดยาว เนื่องจากครูจำนวนมากประกาศชุมนุมต่อไปจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง
รายงานระบุว่า มีครูหลายพันคนประท้วงในเมืองแฟรงก์ฟอร์ต เมืองหลวงของรัฐเคนทักกีเช่นเดียวกัน และโรงเรียนรัฐบาลทั้ง 120 แห่งในรัฐนี้ปิดทำการในวันจันทร์ ส่วนใหญ่เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูใบไม้ผลิพอดี
อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์หลักในการประท้วงของครูในเคนทักกีคือต่อต้านการเปลี่ยนแปลงระบบสวัสดิการบำนาญ และเรียกร้องเพิ่มงบประมาณโรงเรียนรัฐ
แอนดริว บีเวอร์ ครูคณิตศาสตร์ในหลุยส์วิลล์ เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐนี้ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ว่า บรรดาครูต่างไม่พอใจเมื่อสภาของรัฐรีบเร่งผ่านกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอนุมัติการแก้ไขสวัสดิการบำนาญของครู ซึ่งมีการตัดผลประโยชน์ต่างๆ ของครูใหม่ๆ อันอาจลดทอนกำลังใจของคนรุ่นสาวที่จะเข้าสู่อาชีพนี้
ส่วนที่โอคลาโฮมานั้น สมาชิกของสภามลรัฐรีบออกกฎหมายเห็นพ้องขึ้นภาษีเพื่อขึ้นเงินเดือนให้ครู 15-18% หรือเฉลี่ยปีละ 6,100 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สำหรับครูหลายคนที่ไม่เคยได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนเลยตลอด 10 ปี เงินจำนวนดังกล่าวถือว่า ยังไม่เพียงพอ
ครูบางคนบอกว่า เงินเดือนน้อยมากจนต้องไปหางานพิเศษทำ เช่น เป็นพนักงานเสิร์ฟตามร้านอาหารหรือกระทั่งตัดหญ้า
ครูบางส่วนเห็นว่า รัฐต้องเพิ่มงบประมาณให้โรงเรียนในชนบทที่ให้การศึกษาเด็กจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
เจสสิกา ไลต์ลี ครูจากโรงเรียนชนบทในแมคอเลสเตอร์ รัฐโอกลาโฮมา บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า นักเรียนต้องช่วยกันทำวิดีโอขอระดมเงินบริจาคทางออนไลน์ โดยในคลิปมีทั้งภาพเพดานโรงเรียนรั่ว และหนังสือเรียนหมดสภาพ
เซ็นเตอร์ ฟอร์ บัดเจ็ต แอนด์ โพลิซี ไพรออริตี้ส์ สถาบันวิจัยและนโยบายในวอชิงตันที่มีแนวคิดเอียงซ้าย ระบุว่า โอคลาโฮมาเป็น 1 ใน 12 รัฐที่ถูกตัดงบประมาณการศึกษาต่อเนื่องนับจากอเมริกาเผชิญภาวะถดถอยในปี 2008 และแม้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวก็ยังไม่มีการเพิ่มงบประมาณส่วนนี้แต่อย่างใด
ลิลี การ์เซีย ประธานสมาคมการศึกษาแห่งชาติที่เป็นตัวแทนครูโรงเรียนรัฐบาลและลูกจ้างสถาบันอุดมศึกษา กล่าวว่า ครูไม่เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาของรัฐจะจัดการแก้ไขปัญหาถ้าไม่ถูกสังคมกดดัน
ทางด้าน แมรี ฟอลลิน ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมาที่เพิ่งลงนามอนุมัติการขึ้นเงินเดือนครูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เตือนว่า งบประมาณรัฐมีจำกัดและยังมีส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากการศึกษาที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน เช่น ระบบสาธารณสุข
กระนั้น คอลลิน วอลกี สมาชิกสภารัฐจากพรรคเดโมแครต สนับสนุนให้ครูยืนหยัดต่อไป เนื่องจากเชื่อว่า เป็นยุทธวิธีของรีพับลิกันที่จะรอให้ครูต้องออกมาชุมนุมกดดันก่อน
