เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - พวกนักรบของกลุ่ม “โบโกฮารัม” สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 18 ชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายสิบ ในการเข้าโจมตีค่ายทหารแห่งหนึ่งและหมู่บ้านอีก 2 แห่งที่อยู่ติดกัน ใกล้ๆ กับเมืองไมดูกูรี เจ้าหน้าที่ไนจีเรียแถลงในวันจันทร์ (2 เม.ย.)
การปฏิบัติการอย่างอุกอาจเมื่อคืนวันอาทิตย์ (1) ครั้งนี้ ในพื้นที่รอบนอกของไมดูกูรี --เมืองเอกของรัฐบอร์โน และก็เป็นสถานที่กำเนิดกลุ่มโบโกฮารัม ด้วย ทำให้แสงสปอตไลต์สาดแสงจับจ้องไปที่ความพยายามของทางการไนจีเรียในการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อปราบปรามการสำแดงฤทธิ์เดชเป็นเวลาเกือบ 9 ปีแล้วของนักรบญิฮาดกลุ่มนี้
พวกนักรบโบโกฮารัม เข้าโจมตีค่ายทหารแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สวนมะม่วงหิมพานต์ บริเวณทางเข้าเมืองไมดูกรี โดยใช้ทั้งมือระเบิดฆ่าตัวตาย, ปืนครก, และปืนไรเฟิลจู่โจม ทำให้เกิดการสู้รบกันอย่างยืดเยื้อ นายทหารอาวุโสผู้หนึ่งในเมืองไมดูกูรี เปิดเผย
“มีพวกผู้ก่อการร้ายโบโกฮารัม 18 คนเดินเท้าเข้าโจมตีค่ายทหารแห่งนั้น ขณะที่มือระเบิดฆ่าตัวตาย 7 คนออกปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายอยู่ที่พวกชาวบ้านในหมู่บ้านบาเล ชูวาร์ และหมู่บ้านอาลีคารันติ ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.50 น. (ตรงกับ 02.45 น.วันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) นายทหารผู้นี้เล่าโดยขอให้สงวนนาม เนื่องจากเขาไม่ได้รับมอบอำนาจให้แถลงเรื่องเหตุคราวนี้
“พวกผู้ก่อการร้ายยิงปืนครกใส่ทหารด้วย” นายทหารผู้นี้บอก
ทางด้านเบนโล ดัมบัตโต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานรัฐบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินรัฐ (State Emergency Management Agency หรือ SEMA) บอกกับเอเอฟพีว่า “จนถึงเวลานี้เราเอาศพคนตายออกมาจากหมู่บ้านทั้ง 2 แห่งได้ 18 ศพ” เขากล่าวต่อไปว่า “เหยื่อที่เสียชีวิตเหล่านี้ถูกสังหารขณะกำลังพยายามหลบหนีการสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างพวกผู้ก่อความไม่สงบกับกองทหาร
“เสียงระเบิด, เสียงปืน ดังสนั่น”
ในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านี้มีทหารอยู่ 1 คน กองทัพไนจีเรียระบุในคำแถลงฉบับนี้ ซึ่งกล่าวด้วยว่าสามารถสังหารผู้ก่อความไม่สงบได้ 6 คน และ “ทำลาย” มือระเบิดฆ่าตัวตาย 7 คน
พวกผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้กำลังพยายามที่จะแทรกซึมเข้าไปในเมืองไมดูกูรี บาคูรา อับบา อาลี หัวหน้ากองกำลังท้องถิ่นในพื้นที่แถบนี้ ซึ่งกำลังช่วยทหารในการสู้รบกับพวกโบโกฮารัม ระบุ
เขาบอกว่า คนร้ายกลุ่มนี้ได้ปีนข้ามสนามเพลาะที่ทางการขุดขึ้นในพื้นที่ซึ่งเป็นดินทรายรอบๆ เมือง เพื่อสกัดกั้นการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายและอาวุธปืนของโบโกฮารัม จากนั้นก็เข้าโจมตีทหาร
ขณะที่ชาวเมืองไมดูกูรีหลายคนเล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดอย่างน้อย 5 ครั้งตลอดจนเสียงยิงปืนดังกึกก้องจากพื้นที่สวนมะม่วงหิมพานต์
“ทั่วทั้งเมืองได้ยินเสียงระเบิดที่ดังมากและเสียงยิงปืนเมื่อคืนนี้ มันดังต่อเนื่องอยู่ชั่วโมงกว่า” อิบรอฮิม เกรมาห์ ชาวเมืองผู้หนึ่งเล่า
กลุ่มโบโกฮารัม ที่ต้องการก่อตั้งรัฐอิสลามแบบแนวทางความคิดแข็งกร้าวขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ได้สู้รบกับทางการมาเป็นเวลาเกือบ 9 ปี ซึ่งสังหารผลาญชีวิตผู้คนไปอย่างน้อยที่สุด 20,000 คน และมีผู้ที่ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่มากกว่า 2 ล้านคน
มีจำนวนหลายแสนคนทีเดียวเข้ามาลี้ภัยในเมืองไมกูดูรี โดยที่พวกเขาต้องอาศัยกันตามค่ายผู้อพยพหรือไปอยู่กับครอบครัวญาติมิตร
เมื่อวันศุกร์ (30 มี.ค.) มีมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นเด็กสาวอายุระหว่าง 13 ถึง 18 ปีจำนวน 4 คน คร่าชีวิตผู้คนไป 2 รายในการเข้าโจมตีหลายๆ ครั้งที่นิคมซาวูยา ซึ่งอยู่นอกเมืองไมดูกูรี ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัฐบาลไนจีเรียประกาศว่ากำลังเปิดการเจรจาเพื่อหยุดยิงกับโบโกฮารัม
การโจมตีหลายระลอกที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้ จึงเป็นการเน้นย้ำถึงความท้าทายที่รัฐบาลเผชิญอยู่ ในความพยายามที่จะทำข้อตกลงสงบศึกกับโบโกฮารัม
ก่อนหน้านั้นในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อตอนที่เด็กนักเรียนหญิงกว่า 100 คนถูกปล่อยตัวกลับบ้านที่เมืองดัปชี ภายหลังถูกจับเป็นตัวประกันโดยนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ของไนจีเรีย ได้แถลงอย่างมีความหวังว่า รัฐบาลของเขาเสนอที่จะนิรโทษให้แก่พวกนักรบญิฮาด “ที่สำนึกผิด”
“โบโกฮารัม” เกิดแตกกันเอง
ทว่ากระบวนการนี้กำลังประสบความลำบากยุ่งยากยิ่ง เนื่องจากความแตกแยกภายในกลุ่มโบโกฮารัม เอง เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสหลายรายระบุ โดยแจกแจงว่า โบโกฮารัม กำลังมีการแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งมีเป้าหมายและวิธีการปฏิบัติการแตกต่างกันและต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
ฝ่ายหนึ่งนำโดย อบู มัสอับ อัล-บาร์นาวี และมีการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายกับพวก “รัฐอิสลาม” เวลานี้ฝ่ายนี้ต้องการที่จะเจรจากับรัฐบาล ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งนั้นนำโดย อบูบาคาร์ เชเคา ซึ่งมีชื่อฉาวโฉ่ในเรื่องการใช้มือระเบิดฆ่าตัวตาย
“มีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องระหว่างรัฐบาลกับพวกผู้ก่อความไม่สงบจากฝ่ายอัล-บาร์นาวี” แหล่งข่าวซึ่งขอให้สงวนนามรายหนึ่งระบุ
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพเริ่มต้นขึ้นอย่างกระตือรือร้นภายหลังเหตุโจมตีทีมสำรวจขุดเจาะน้ำมันในเขตทะเลสาบ เลค ชาด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 ซึ่งมีการสงหารผู้คนอย่างน้อย 69 คน
“เรื่องสำคัญที่ทำให้ปวดหัวกันอยู่ในเวลานี้ก็คือ การขยายการเจรจาให้ครอบคลุมถึงฝ่ายเชเคา ซึ่งเป็นผู้ที่คัดค้านการเจรจา การรับมือกับพวกเขานี่เป็นปัญหาหนักจริงๆ”