จีนตอบโต้มะกันศึกสงครามการค้า ตั้งกำแพงภาษีหมู-ผลผลิตการเกษตร

เอพี – สงครามการค้าโลกเริ่มปะทุ หลังจีนจัดเต็มตอบโต้ทรัมป์ ด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเนื้อหมู ผลไม้ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของอเมริกา รวมมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังเตือนนักการเมืองอเมริกันให้สำเหนียกว่า ปักกิ่งไม่มีทางยอมแพ้ หากวอชิงตันเปิดสงครามการค้า

กระทรวงการคลังแดนมังกรแถลงในวันจันทร์ (2 เม.ย.) ว่ามาตรการล่าสุดเป็นการตอบโต้การเรียกเก็บภาษีศุลกากรเหล็กกล้าและอลูมิเนียมที่สหรัฐฯ บังคับใช้เมื่อวันที่ 23 เดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประเด็นใหญ่กว่าที่กระตุ้นการตัดสินใจครั้งนี้ น่าจะเป็นการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติข้อเสนอเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนอีกล็อตมูลค่าเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์จากข้อพิพาทด้านนโยบายเทคโนโลยี

การตอบโต้ทางภาษีนี้เป็นหนึ่งในประเด็นขัดแย้งระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งเกี่ยวกับการที่จีนเกินดุลการค้าอเมริกาถึง 275,800 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งนโยบายด้านเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรม และการเข้าถึงตลาดที่ทางการจีนครอบงำอยู่

แม้มีการคาดการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวนี้อาจมีผลกระทบเฉพาะหน้าเพียงจำกัด แต่ก็ทำให้นักลงทุนกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจสะดุด หากประเทศอื่นๆ ตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าตามสองชาติมหาอำนาจ และความกังวลนี้ทำให้ตลาดการเงินเซชั่วคราว แต่สามารถดีดกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ปักกิ่งนั้นกำลังถูกร้องเรียนจากวอชิงตัน สหภาพยุโรป (อียู) และประเทศคู่ค้าอื่นๆ ว่าขัดขวางการเข้าถึงตลาด ซ้ำทุ่มตลาดโลกด้วยเหล็กกล้าและอลูมิเนียมราคาถูกอย่างไม่เหมาะสม แต่ขณะเดียวกัน อียู ญี่ปุ่น และอีกหลายชาติก็วิจารณ์มาตรการฝ่ายเดียวของทรัมป์ว่า ส่งผลลบต่อการค้าโลก

อเมริกาซื้อเหล็กกล้าและอลูมิเนียมจีนน้อยมาก หลังประกาศขึ้นภาษีเพื่อชดเชยสิ่งที่วอชิงตันระบุว่า เป็นการอุดหนุนอย่างไม่เหมาะสม ถึงกระนั้นนักวิเคราะห์ก็คาดว่า ปักกิ่งต้องออกมาตอบโต้เพื่อไม่ให้ถูกมองว่า อ่อนแอในข้อพิพาทสำคัญเยี่ยงนี้

มาตรการล่าสุดของจีนที่มีผลทันทีตั้งแต่วันจันทร์ จะมีการขึ้นภาษีนำเข้าเนื้อหมู เศษอลูมิเนียม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ 25% และขึ้นภาษี 15% สำหรับแอปเปิล อัลมอนด์ และอื่นๆ

กระทรวงการคลังจีนแถลงว่า จีนเคารพและสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี และการขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นมาตรการที่เหมาะสมเนื่องจากเป็นการใช้กฎขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ด้านทำเนียบขาวยังไม่ออกมาโต้ตอบใดๆ

ก่อนหน้านี้ทางการปักกิ่งระบุมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่อยู่ในรายการเรียกเก็บภาษีเพิ่มครั้งนี้ว่า อยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของแดนมังกรพุ่งเป้าที่ภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานเสียงสำคัญที่เทคะแนนให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อสองปีก่อน

ปีที่ผ่านมา เกษตรกรอเมริกันส่งผลิตผลไปขายให้จีนเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ เฉพาะอุตสาหกรรมเนื้อสุกรนั้นมีมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ และทำให้จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 สำหรับผู้เพาะเลี้ยงหมูในอเมริกา

“นักการเมืองอเมริกันควรตระหนักไม่ช้าก็เร็วว่า จีนไม่มีทางยอมแพ้ หากอเมริกาเปิดสงครามการค้า” หนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุ

ทั้งนี้ วอชิงตันยกเว้นการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเหล็กกล้าและอลูมิเนียมจากอียู เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ แต่ไม่รวมพันธมิตรญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านั้น สมาชิกหลายชาติในอียูขู่ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเหล้าเบอร์เบิน เนยถั่ว และสินค้าอื่นๆ ของอเมริกา

ปักกิ่งยังไม่ได้เปิดเผยแนวทางการตอบโต้การอนุมัติคำสั่งของทรัมป์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ปูทางสำหรับการขึ้นภาษีจากข้อร้องเรียนว่า จีนกดดันบริษัทต่างชาติให้มอบเทคโนโลยีให้แลกกับการเข้าถึงตลาด

ทรัมป์สั่งการให้เจ้าหน้าที่การค้าร้องเรียนต่อดับเบิลยูทีโอเกี่ยวกับการอนุญาตใช้งานเทคโนโลยีของจีน และเสนอขึ้นภาษี 25% จากผลิตภัณฑ์ของจีน อาทิ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ เทคโนโลยีการสื่อสาร และเครื่องจักรกล และระบุว่า จะเพิ่มข้อจำกัดการลงทุนของจีนในภาคอุตสาหกรรมสำคัญของอเมริกา

เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารระบุเป้าหมายที่เป็นไปได้ว่า ครอบคลุมสายผลิตภัณฑ์ 1,300 รายการ มูลค่ารวมกันราว 48,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะเปิดให้ภาคธุรกิจแสดงความคิดเห็น 30 วันนับจากการประกาศรายชื่อ