xs
xsm
sm
md
lg

In Pics:อดีตผู้นำเผด็จการกัวเตมาลา “เอเฟรน ริออส มอนต์” เบื้องหลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เสียชีวิตแล้วในวัย 91 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เอเฟรน ริออส มอนต์ (Efrain Rios Montt) อดีตผู้นำเผด็จการทหารกัวเตมาลา กุมอำนาจในช่วงสงครามกลางเมืองต้นยุค 80 เคยถูกศาลในประเทศตัดสินผิดคดีก่ออาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่อนที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญกัวเตมาลากลับคำตัดสินในปี 2013 เสียชีวิตแล้วในขณะที่มีอายุ 91 ปี ระหว่างถูกสั่งกักตัวภายในบ้านกรุงกัวเตมาลา ซิตี

DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(1 เม.ย)ว่า อดีตเผด็จการทหารกัวเตมาลา เอเฟรน ริออส มอนต์ (Efrain Rios Montt) วัย 91 ปี เสียชีวิตท่ามกลางการแวดล้อมของครอบครัว ทนายความประจำตัว ลูอิซ โรซาเลซ(Luis Rosales) กล่าวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในวันอาทิตย์(1)

“มอนต์เสียชีวิตพร้อมกับจิตสำนักของเขาที่มีสุขภาพดี สะอาด และถูกแวดล้อมไปด้วยความรัก”

ทั้งนี้เมื่อปี 2013 มอนต์กลายเป็นผู้นำแดนลาตินอเมริกาคนแรกที่ถูกตัดสินจำคุกด้วยข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นระหว่างการปกครองกัวเตมาลาเป็นระยะเวลา 17 เดือนของเขาตั้งแต่ปี 1982-1983 แต่อย่างไรก็ตาม สื่อเยอรมันชี้ว่า คำตัดสินถูกสั่งกลับการพิพากษาในท้ายที่สุดภายในไม่กี่วันหลังจากนั้น โดยชี้ไปถึง “ความผิดพลาดทางกระบวนการ” เป็นสำคัญ และหลังจากนั้น ทนายความของเขาได้ใช้ข้ออ้างสุขภาพของอดีตผู้นำเผด็จการกัวเตมาลา และการสูงอายุ ขึ้นต่อสู้ในความพยายามเลื่อนการไต่สวนใหม่ออกไป

DW รายงานว่า ในช่วงเวลาที่มอนต์ขึ้นปกครองนั้น กัวเตมาลาได้เข้าสู่สงครามกลางเมืองเต็มตัว สู้รบกับกลุ่มฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1960 โดยกลุ่มนี้ได่รับการสนับสนุนกับกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มชนกลุ่มน้อยชาวมายัน

และเมื่อเขาขึ้นเป็นผู้นำ มอนต์ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มกบฎและบรรดากองเชียร์สนับสนุน พร้อมกับใช้นโยบายสายเหยี่ยว จัดการทำลายหมู่บ้านที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฎ

นอกเหนือจากนี้มอนต์ยังแต่งตั้ง “ผู้พิพากษาที่ไม่เปิดเผยตัว” ศาลที่มีการปกปิดตัวตน ซึ่งทำการลงโทษผู้ต้องสงสัยที่เป็นกลุ่มกบฎ หรือผู้สนับสนุน หรือกลุ่มติดอาวุธ

DW ชี้ว่า เอเฟรน ริออส มอนต์ ถูกรัฐมนตรียุติธรรมให้เขาออกจากตำแหน่งในปี 1983 แต่ทว่าอดีตเผด็จการกัวเตมาลารายนี้ยังคงยังอยู่ในเส้นทางการเมืองของตัวเองต่อไปในฐานะสมาชิกรัฐสภาในอีกหลายสิบปีต่อมา

และพบว่ามอนต์เพิ่งถูกสั่งฟ้องดำเนินคดีเมื่อปี 2012 ซึ่งอัยการกัวเตมาลาในเวลานั้นชี้ว่า ภายใต้การปกครองของเขา กองกำลังกัวเตมาลาได้สังหารไอซิล มายัน(Ixil Mayan) ไป 1,771 คน ซึ่งเทียบเท่าได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งในช่วงระหว่างการไต่สวน มอนต์ได้ปฎิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา

“มันไม่เคยเป็นความตั้งใจของผม หรือเป้าหมายของผมในการที่จะทำลายทั้งเผ่าพันธุ์” อดีตประธานาธิบดีกัวเตมาลา มอนต์ กล่าว และเสริมต่อว่า “ผมไม่เคยอนุญาต ไม่เคยลงนาม ไม่เคยออกคำสั่งการโจมตีสีผิว เชื้อชาติ หรือศาสนาใด”

และพบว่าคำพิพากษาในตอนแรกที่ประกาศจำคุกเขาเป็นเวลา 80 ปีถูกพิพากษากลับในปี 2013 และส่วนตัวอดีตผู้นำเผด็จการทหารมอนต์ ถูกสั่งกักตัวแต่อยู่ภายในบ้านพักเพื่อรอกระบวนการไต่สวนเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่ทว่ากระบวนการกลับถูกทำให้ล่าช้าลงในปี 2015 หลังจากที่มีหนึ่งในคณะผู้พิพากษาซึ่งเป็นสตรีขอถอนตัว

การไต่สวนใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้งและถูกถอนออกไปในปี 2016 และตกออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มใหม่อีกครั้งเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา










กำลังโหลดความคิดเห็น