เอเจนซีส์ – ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นประธานาธิบดีอียิปต์ระบุ รักษาการผู้นำ ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล –ซิซี ได้รับการเลือกตั้งต่อเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนน 92% ท่ามกลางตัวเก็ง 5 คนที่มีสิทธิ์อาจชนะถูกห้ามลงสมัครปีนี้
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(29 มี.ค)ว่า ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นประธานาธิบดีอียิปต์ออกมาชี้ว่า ในการเลือกตั้งล่าสุดมีผู้มีสิทธิ์ออกมาใช้สิทธิ์เพียงแค่ 41.5% เท่านั้น
ซึ่งพบว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิ์การเลือกตั้งทั้งหมด 60 ล้านคน มีเพียง 25 ล้านคนเท่านั้นที่ลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน และสิ้นสุดลงในวันพุธ(28) อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์รัฐบาลไคโร อัล-อาห์รัม(Al-Ahram)
และจากจำนวนทั้งหมด 25 ล้านคน พบว่ามีผู้หย่อนบัตรเลือกตั้งลงคะแนนให้ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล –ซิซี จำนวน 23 ล้านคน ในขณะที่หนังสือพิมพิ์อียิปต์อีกฉบับ อักห์บาร์ เอล-ยึม(Akhbar el-Youm)ไม่ได้รายงานถึงจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมด แต่กล่าวเพียงว่า รักษาการผู้นำอียิปต์ชนะไป 21.4 ล้านเสียง
และอ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ อัล-อาห์รัม รายงานเพิ่มเติมว่า ในจำนวน 23 ล้านเสียงที่หย่อนบัตรเลือกตั้งอย่างถูกกฎหมาย พบว่ามีจำนวนสูงถึง 2 ล้านคนที่ทำให้บัตรเลือกตั้งของตนเองไม่สามารถถูกใช้นับคะแนนได้
ในขณะที่คู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวในบัตรเลือกตั้งอียิปต์ของซิซีคือ มุสซา โมสตาฟา มุสซา(Mousa Mostafa Mousa) ที่ลงรับสมัครเลือกตั้งในวันปิดการรับสมัคร และเคยประกาศว่า เขาไม่ได้มาเพื่อแข่งกับประธานาธิบดีซิซี ได้ประกาศยอมแพ้ในคืนวันพุธ(28) ในขณะผู้มีชื่อเสียงของอียิปต์อีก 5 คนที่หากลงสมัครอาจมีสิทธิ์ชนะการเลือกตั้งนั้นกลับถูกห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งในปีนี้
ในการประกาศความพ่ายแพ้ของมุสซา เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อียิปต์ว่า เขาหลังว่าจะได้คะแนนเสียงราว 10% “แต่ผมรู้ในทันทีถึงความนิยมอย่างมหาศาลของประธานาธิบดีซิซี”
เดอะการ์เดียนชี้ว่า มุสซาเป็นเพียงผู้สมัครไม้ประดับในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในขณะที่ผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ หากไม่โดนจับกุม ก็ต้องยอมถอนตัวออกไปอย่างช่วยไม่ได้
เดอะการ์เดียนเปรียบเทียบผลการเลือกตั้งของซิซีปีนี้ กับผลการเลือกตั้งสมัยแรกของเขาหลังจากโค่นอดีตประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ในปี 2013 ซึ่งในการเลือกตั้งสมัยแรกของซิซีในปี 2014 เขาชนะไปด้วยคะแนน 96.9% และมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 47% สูงกว่าปีนี้ที่ออกมาเพียง 40% เท่านั้นถึงแม้ว่าตัวนายกรัฐมนตรีอียิปต์ ชารีฟ อิสมาอิล(Sherif Ismail) จะออกมาร้องขอประชาชนด้วยตนเองให้ออกมาทำหน้าที่พลเมืองด้วยความรักชาติ
