ลือสนั่น “คิม จองอึน” ดอดหารือ “สี จิ้นผิง” จีนไม่รับ/ปฏิเสธ-แถลงเมื่อถึงเวลา

เอเจนซีส์ - ลือสนั่น คิม จองอึน ย่องเข้าปักกิ่งหารือผู้นำจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรไม่ปฏิเสธหรือยืนยันข่าวลือนี้ ขณะที่วอชิงตันออกตัวว่า ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้เช่นกัน และโซลแบ่งรับแบ่งสู้ว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

หากข่าวนี้เป็นจริง จะถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกนับจากที่คิมขึ้นสู่อำนาจในปี 2011 และส่งสัญญาณการหักมุมสำคัญอีกครั้งในพัฒนาการทางการทูตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอันนำไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่างคิมกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และกับผู้นำสหรัฐฯ

สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานวันอังคาร (27 มี.ค.) ว่ารถไฟขบวนพิเศษซึ่งถูกจับตามองมาหลายวัน ได้ออกจากสถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถฟันธงว่า ผู้นำคิมอยู่บนรถไฟหรือไม่ ทั้งนี้เกิดกระแสข่าวคาดเดากันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผู้โดยสารปริศนาของรถไฟขบวนนี้ ตั้งแต่ตอนมันเดินทางถึงปักกิ่งในวันอาทิตย์ (25)

ข่าวลือยิ่งดูมีความน่าเชื่อถือขึ้นอีกหลังจากแหล่งข่าวทางการทูตในปักกิ่งแย้มว่า มีเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของเกาหลีเหนือเดินทางไปปักกิ่ง และสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อคืนวันจันทร์ (26) โดยอ้างแหล่งข่าว 3 คนที่ไม่ประสงค์ออกนามว่า คิมอยู่ที่ปักกิ่งในขณะนั้น

ทางด้าน หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงในวันอังคารว่า จะมีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องคิมหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นของเกาหลีเหนือที่ไปเยือนปักกิ่ง “ในเวลาอันเหมาะสม” และสำทับว่า จีนยินดีร่วมกับเกาหลีเหนือเพื่อคงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักเพียงชาติเดียวของเกาหลีเหนือ ถูกกันออกนอกเวทีหลังจากเปียงยางหยิบยื่นไมตรีและโอกาสในการประชุมสุดยอดกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กระนั้น การเยือนของคิมอาจทำให้ปักกิ่งมั่นใจว่า ได้กลับเข้าสู่เวทีอีกครั้ง

บิลล์ บิชอป ผู้ตีพิมพ์จดหมายข่าว ชิโนซิสม์ ไชน่า ระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ต้องการพบคิมก่อนที่ผู้นำโสมแดงจะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม

รายงานระบุว่า ที่เรือนรับรองเตียวอี่ว์ไถ ในกรุงปักกิ่ง ที่คิม จองอิล พ่อของคิม เคยพักเมื่อครั้งเยือนปักกิ่งนั้น มีตำรวจรักษาความปลอดภัยแน่นหนาโดยประจำอยู่ทุก 50-100 เมตรที่ด้านหน้า

ช่างภาพสำนักข่าวเอเอฟพียังเห็นขบวนรถลิมูซีนออกจากเรือนรับรองภายใต้การอารักขาเข้มงวดของตำรวจเมื่อเช้าวันอังคาร

นอกจากนั้นยังมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในสถานที่ 2 แห่งที่มักใช้ในการประชุมระดับสูงคือ มหาศาลาประชาชน และทำเนียบจงหนานไห่ ซึ่งเป็นที่ทำการรัฐบาลและอยู่ถัดจากพระราชวังโบราณ

สื่อเกาหลีใต้หลายสำนักคาดการณ์ว่า อาคันตุกะที่ไปเยือนปักกิ่งอาจเป็นคิม โยจอง น้องสาวคิม ที่เคยเป็นตัวแทนไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนที่แล้ว

ทว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนบอกว่า คิมไม่น่าส่งน้องสาวไปแทนในภารกิจสำคัญระดับนี้ เนื่องจากการได้ประชุมกับสีจะถือเป็นการตอกย้ำสถานะของตนเองในฐานะผู้นำโลก และในทางกลับกัน ผู้นำจีนนั้นก็คงอยากรู้ว่า คิมคิดอย่างไรกับการติดต่อกับโซลและวอชิงตัน

ทั้งนี้เรื่องราวลึกลับนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสถานีโทรทัศน์นิปปอน ทีวีของญี่ปุ่น แพร่ภาพรถไฟขบวนหนึ่งที่คล้ายกับขบวนที่คิม จองอิลใช้เวลาเดินทางไปต่างประเทศ เข้าเทียบชานชาลาสถานีปักกิ่งท่ามกลางการต้อนรับของทหารกองเกียรติยศและขบวนรถลิมูซีนสีดำ

ขณะที่สื่อสังคม “เว่ยโป๋” ของจีนบล็อกการค้นหาคำว่า คิม จองอึน เมื่อวันอังคาร โดยที่ปกติแล้ว ปักกิ่งจะคอยควบคุมการรายงานข่าวอย่างเข้มงวดในช่วงเวลาที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง

ในอีกด้านหนึ่ง สถานีโทรทัศน์เอสบีเอสของเกาหลีใต้รายงานว่า แขกที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองตานตงที่เป็นเมืองชายแดนของจีนที่ติดกับเกาหลีเหนือ และสามารถมองเห็นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างจีน-เกาหลีเหนือนั้น ถูกขอร้องให้ออกจากโรงแรมและม่านหน้าต่างทั้งหมดถูกปิด

ที่วอชิงตัน ทำเนียบขาวแถลงว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่า คิมอยู่ในเปียงยางหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้บอกเพียงว่า กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ปักกิ่งรับบทบาทเป็นทั้งผู้ปกป้องทางการทูต ตลอดจนเป็นแหล่งทำการค้าและให้ความช่วยเหลือหลักแก่เกาหลีเหนือ ทว่า ช่วงไม่กี่ปีมานี้สัมพันธภาพสองชาติเริ่มปีนเกลียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคิมแหกประเพณีปฏิบัติด้วยการไม่เดินทางไปแสดงความยินดีเมื่อสีขึ้นสู่อำนาจ ปักกิ่งยังไม่พอใจมากขึ้นกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง และแสดงออกด้วยการสนับสนุนและบังคับใช้มาตรการแซงก์ชันของสหประชาชาติ

แต่ขณะเดียวกัน จีนก็กลัวว่า การล่มสลายของเกาหลีเหนือจะนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพครั้งใหญ่ โดยอาจจะเกิดคลื่นการอพยพของชาวโสมแดงที่ทะลักเข้าสู่จีน และความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจส่งทหารไปประจำการตามแนวชายแดนเกาหลีติดต่อกับจีน หากเกาหลีเหนือ-ใต้รวมประเทศกัน โดยที่มีรายงานว่าในวันพฤหัสบดี(29)นี้ จะมีการหารือระดับสูงระหว่างสองเกาหลีเพื่อปูทางสำหรับซัมมิตในช่วงปลายเดือนหน้า

ยู โอเยล ศาสตราจารย์ด้านเกาหลีเหนือของมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล เชื่อว่า เกาหลีเหนือต้องการยืนยันความสัมพันธ์กับจีน และเชื่ออีกว่า ตัวเองมีสถานะบางอย่างที่ทำให้สามารถร้องขอบางสิ่งจากปักกิ่งได้