เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สิ้นคำสั่งผู้นำสหรัฐฯขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกนอกประเทศ สถานทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี เปิดประเด็นตั้งคำถามกับผู้ใช้ทวิตเตอร์ให้โหวตลงความเห็น สั่งปิดกงสุลอเมริกาที่ใดในรัสเซียเพื่อตอบโต้วอชิงตัน พบล่าสุดมีผู้เข้าร่วม 49,659 คน และสถานกงสุลประจำเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กได้รับการโหวตให้ถูกปิดมากที่สุด ส่วนสถานกงสุลรัสเซียในซีแอตเติลยกเลิกให้บริการทันทีเช้าวันจันทร์(26 มี.ค) หลังรับทราบคำสั่งปิด แต่จะยังคงสมารถเปิดไปจนถึงวันที่ 2 เม.ยนี้
CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(26 มี.ค)ว่า โพลสอบถามของสถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯภายใต้แอกเคาน์ทางการ @RusEmbUSA ถึงการสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองต่างๆของรัสเซีย พบว่าแค่เวลาผ่านไป 2 ช.มครึ่งหลังจากโพสต์ตั้งคำถามวันจันทร์(26) มีผู้สนใจเข้าร่วมสูงถึง 11,000 คน และในระหว่าง 3 ตัวเลือก พบว่า สถานกงสุลสหรัฐฯประจำเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กได้รับคะแนนถูกโหวตสั่งปิดมากที่สุด
และมาจนถึงวันนี้(27) MGRออนไลน์พบว่า ล่าสุดมีจำนวนผู้เข้าร่วมการลงคะแนนทั้งหมดราว 49,659 คน พบว่า สถานกงสุลประจำเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กยังคงมีคะแนนนำอยู่ที่ 47% ตามมาด้วยสถานกงสุลประจำเมืองเอกาเตรินเบิร์ก(Yekaterinburg)ที่ 35% และอันดับสุดท้ายคือ สถานกงสุลประจำเมืองวลาดิวอสต็อกที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเกาหลีเหนือที่ 18% ตามลำดับ
ซึ่งในคำถามของสถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯได้สอบถามบรรดาผู้ใช้ทวิตเตอร์ว่า “หากว่าอำนาจในการตัดสินใจสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯประจำรัสเซียอยู่ในมือคุณ จะพิจารณาสถานกงสุลสหรัฐฯจากที่ตั้งใดดังต่อไปนี้
CNBC ชี้ว่า การออกมาตั้งโพลสำรวจของสถานทูตรัสเซียเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งวันจันทร์(26) ขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ 60 คน และสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองซีแอตเติล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับอังกฤษ ที่ขอให้ประเทศทั่วโลกแสดงพลังร่วมมือตอบโต้รัสเซียในคดีลอบสังหารอดีตสายลับ 2 หน้าในซาลิสบิวรี อังกฤษเมื่อวันที่ 4 มี.ค ก่อนหน้า
สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานกงสุลรัสเซียที่ถูกสั่งปิดนี้ พบว่าตั้งอยู่ไม่ห่างจากคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และพบว่ามีหน่วยโลมาของกองทัพเรือสหรัฐฯเป็นผู้คอยคุ้มกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งโครงการฝึกสัตว์ โลมาและสิงโตทะเลสำหรับในการทำสงครามที่เริ่มมาตั้งแต่ยุค 60 เพื่อทำงานร่วมกับทหารเรือสหรัฐฯและทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ
โดยที่ตั้งของสถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ดีซี ห่างจากคลังอาวุธนิวเคลียร์ไปไม่ถึง 30 ไมล์เท่านั้น
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มีจำนวนหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากถูกเก็บไว้ภายในฐานทัพเรือสหรัฐฯคิตแซพ-บานกอร์(Kitsap- Bangor base) ประจำรัฐวอชิงตันดีซี ซึนอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นฐานทัพของเรือดำน้ำสหรัฐฯ โดยในคำสั่งการปิดสถานกงสุลรัสเซีย ทรัมป์ได้ใช้ข้ออ้างไปถึงความปลอดภัยเนื่องจากตั้งใกล้กับสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ทางทหารมากจนเกินไป
สื่อ maritime-executive รายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า เชื่อว่ามีเรือดำน้ำติดตั้งมิสไซล์ไทรเดนต์ติดหัวรบนิวเคลียร์ของกองทัพสหรัฐฯประจำอยู่ถึง 8 ลำ และเชื่อว่าอาจมีหัวรบเก็บสะสมไว้อยู่สูงถึง 1,000 หัวรบที่นี่ อ้างอิงจากสมาพันธ์แห่งนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ( the Federation of American Scientists)
ทั้งนี้โฆษกหญิงประจำกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่า การสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองซีแอตเติลเป็นการส่งสัญญาณทางตรงจากสหรัฐฯไปยังเครมลินถึงคดีความพยายามลอบสังหารพันเอก เซียร์เก สกรีปัล และบุตรสาวยูเลีย
สื่อซีแอตเติลไทม์สรายงานว่า หลังจากมีคำสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองซีแอตเติลออกมา พบว่าในเช้าวันจันทร์(26) ทางเจ้าหน้าที่กงสุลรัสเซียได้ปฎิเสธที่จะให้บริการผู้มาติดต่อ
พบว่าสถานกงสุลตั้งอยู่ชั้น 25 ของตึกวันยูเนียนสแควร์ (One Union Square)ถนน 600 ยูนิเวอร์ซิตี ได้รับอนุญาตให้ทำการไปจนถึงแค่วันที่ 2 เม.ย ที่จะถึงนี้เท่านั้น แต่ทว่าเจ้าหน้าที่กงสุลรัสเซียได้ปฎิเสธที่จะให้บริการกับผู้มาติดต่อแล้ว ซึ่งรวมไปถึง ลูดา รีฟ(Luda Rieve) ถือ 2 สัญชาติ อเมริกันและรัสเซีย บินมาจากเมืองซานฟรานซิสโกเพื่อจะมาขอใช้บริการทางกงสุลที่นี่หลังจากสถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองซานฟรานซิสโกถูกสั่งปิดไปในปี 2016 ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา
