โลกระอุ! สหรัฐฯ-แคนาด-ยุโรป จับมือตะเพิดทูตรัสเซียนับร้อย ลงโทษวางยาพิษสายลับสองหน้า

บีบีซี/รอยเตอร์/เอเอฟพี - สหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป ในวันจันทร์ (26 มี.ค.) พร้อมใจขับไล่นักการทูตรัสเซียรวมกันกว่า 100 คน ในมาตรการตอบโต้เหตุสายลับสองหน้าชาวรัสเซียถูกวางยาในอังกฤษ ในขณะที่มอสโกชี้เป็นสัญญาณแห่งการยั่วยุ กร้าวจะเอาคืนอย่างสาสม

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งขับไล่นักการทูตรัสเซีย 60 คนออกจากอเมริกาและปิดสถานกงสุลในซีแอตเทิล ในมาตรการตอบโต้เหตุลอบวางยาพิษด้วยสารทำลายระบบประสาทสายลับสองหน้าชาวรัสเซียในอังกฤษ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นมาตรการหนักหน่วงที่สุดที่ ทรัมป์ ใช้เล่นงาน รัสเซีย และมันเกิดขึ้นตามหลังสิ่งที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเรียกมันว่า “พฤติกรรมที่ไม่ไตร่ตรอง” ของรัฐบาลรัสเซีย ในความพยายามโจมตี เซียร์เก สกรีปัล และ ยูเลีย ลูกสาว ด้วยสารทำลายระบบประสาทเกรดทหาร

เซียร์เก สกรีปัล ซึ่งเคยเป็นนายทหารยศพันเอก ในศูนย์บัญชาการข่าวกรองทางทหารของกองทัพรัสเซีย (GRU) และ ยูเลีย บุตรสาวของเขา คือ 2 คนที่ถูกพบหมดสติบนม้านั่งด้านนอกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่เมืองซัลส์บิวรี ทางตอนใต้ของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม และเวลานี้อาการของทั้งสองคนยังอยู่ในขั้นสาหัส

ในเวลาไล่เลี่ยกันเหล่าประเทศสมาชิกอียู อย่างน้อย 15 ประเทศ และแคนาดา ก็เคลื่อนไหวขับไล่นักการทูตรัสเซียออกนอกดินแดนเช่นกัน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางกลุ่มบอกว่าพวกเขายืนหยัดอยู่เคียงข้างอังกฤษ ในการกล่าวโทษมอสโกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวางยาพิษสายลับสองหน้า

14 ประเทศสมาชิกอียูที่ดำเนินการขับทูตรัสเซีย ประกอบด้วย เยอรมนี (4 คน), ฝรั่งเศส (4 คน), ฟินแลนด์ (1 คน), อิตาลี (2 คน), โรมาเนีย (1 คน), เอสโตเนีย (ไม่ระบุ), เดนมาร์ก (2 คน), เนเธอร์แลนด์ (2 คน), ลิทัวเนีย (3 คน), สาธารณรัฐเช็ก (3 คน), ลัตเวีย (1 คน), โปแลนด์ (4 คน), โครเอเชีย (1 คน) และสวีเดน (1 คน) ขณะที่ ยูเครน ซึ่งยังไม่ได้เป็นสมาชิกอียูดำเนินการขับไล่ทูตรัสเซีย 13 คน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ปราศรัยต่อเหล่าผู้นำสหภาพยุโรปในเวทีประซัมมิตหนึ่งในบรัสเซลส์ เรียกร้องให้พวกเขาแสดงจุดยืนสนับสนุนอังกฤษที่ประเมินว่ารัสเซียควรถูกกล่าวโทษต่อเหตุโจมตีครั้งนี้

บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เขียนบนทวิตเตอร์ยกย่องความเคลื่อนไหวของอียู สหรัฐฯและพันธมิตรอย่างแคนาดา ใน “มาตรการตอบโต้นานาชาติ” ต่อเหตุวางยาพิษอดีตสายลับสองหน้าบนแผ่นดินอังกฤษ “วันนี้คือมาตรการตอบโต้อันพิเศษโดยพันธมิตรของเราที่ยืนหยัดเคียงข้างกันมาตั้งแต่อดีต ในขณะที่มันเป็นการร่วมกันขับไล่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาและจะช่วยปกป้องความมั่นคงของเรา”

ทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียในวันจันทร์ (26 มี.ค.) รุดออกมาตอบโต้ทันควัน ระบุมอสโกจะดำเนินการแก้เผ็ดกับความเคลื่อนไหวขับไล่เจ้าหน้าที่ทูตของพวกเขาโดยสหรัฐฯ แคนาดา และ 14 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป “เราขอประท้วงอย่างหนักแน่นต่อการตัดสินใจขับไล่นักการทูตรัสเซียของอียูและประเทศสมาชิกนาโต” กระทรวงการต่างแดนแดนหมีขาวระบุในถ้อยแถลง พร้อมเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นสัญญาณแห่งการ “ยั่วยุ” และให้สัญญว่า “ก้าวย่างที่ไม่เป็นมิตรครั้งนี้จะไม่ถูกปล่อยผ่านไปอย่างไร้ร่องรอยและเราจะทำการตอบโต้”

พวกผู้นำอียูเห็นพ้องต้องกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่รัสเซียจะอยู่เบื้องหลังเหตุวางยาพิษสกรีปัลและลูกสาวบนแผ่นดินของอังกฤษ แม้รัสเซียยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีบทบาทใดๆ ในเหตุโจมตีดังกล่าว

ในสหรัฐฯ นักการทูต 48 คนที่จถูกขับไล่นั้นเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตรัสเซียในวอชิงตัน ส่วนที่เหลือเป็นนักการทูตประจำสหประชาชาติในนิวยอร์ก ขณะเดียวกันอเมริกายังสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียในซีแอตเทิลด้วย

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า “เมื่อวันที่ 4 มีนาคม รัสเซียใช้สารทำลายระบบประสาทเกรดเดียวกับทหารในความพยายามฆาตกรรมพลเมืองอังกฤษและลูกสาวในเมืองซัลส์บิวรี การโจมตีอังกฤษซึ่งเป็นพันมิตรของเรา ทำชีวิตผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วนตกอยู่ในความเสี่ยงงและเป็นผลให้มีเหยื่อ 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในนั้นรวมถึงตำรวจ 1 นาย”

นอกจากนี้แล้ว “มันยังเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมีและฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว