คดีขายที่ดินฉาวทำเมียอาเบะลำบาก คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่หนุนสภาไต่สวน

รอยเตอร์ – อากิเอะ อาเบะ ตกที่นั่งลำบากหลังโพลล์ชี้คนส่วนใหญ่อยากให้ภริยานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้นี้ขึ้นให้การกรณีการขายที่ดินอื้อฉาวในราคาถูกสุดๆ ให้พวกพ้อง ขณะที่นักข่าวสายอนุรักษนิยมแนะสตรีหมายเลขหนึ่งแดนปลาดิบเก็บตัวเพื่อเห็นแก่สถานะของรัฐบาล

อากิเอะ บุตรสาวเจ้าของบริษัทผลิตขนมหวานชื่อดังของญี่ปุ่น พยายามเลียนแบบบทบาท “สตรีหมายเลขหนึ่ง” ของอเมริกา แม้ว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้นเหล่าภริยานักการเมืองส่วนใหญ่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นช้างเท้าหลัง

ทั้งผู้เชี่ยวชาญและคนรู้จักต่างมองว่า ท่าทีแบบนั้นมาพร้อมความเสี่ยง เช่น ยู โตโยนากะ ประธานองค์การส่งเสริมข้าวอินทรีย์ที่ไม่หวังผลกำไร ที่เคยทำงานจิตอาสาร่วมกับอากิเอะ บอกว่า แนวคิดของอากิเอะต่างจากแนวคิดของภรรยานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนก่อนๆ เพราะแทนที่จะทำตัว “เป็นประโยชน์” ภายในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ อากิเอะกลับต้องการที่จะเป็นคนที่สามารถตัดสินใจหรือทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง

พรรคฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้อากิเอะขึ้นให้การต่อรัฐสภา เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับ โมริโตโมะ กาคูเอ็น บริษัทบริหารโรงเรียนที่ได้ส่วนลดมหาศาลจากการซื้อที่ดินของรัฐ และกำลังเป็นประเด็นอื้อฉาวเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกและความเป็นไปได้ในการพยายามกลบข่าวของรัฐบาล ซึ่งฉุดคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ตกลิ่วอยู่ที่ 42% และส่งให้คะแนนนิยมของฝ่ายค้านพุ่งขึ้นเป็น 49%

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กระทรวงการคลังยอมรับว่า ได้แก้ไขเอกสารเกี่ยวกับข้อตกลงขายที่ดินที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งรวมถึงการตัดส่วนที่อ้างอิงถึงอากิเอะออก อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ตนและภรรยาไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการขายที่ดินผืนดังกล่าวหรือสั่งให้มีการปิดบังเรื่องนี้แต่อย่างใด

อาเบะนั้นคัดค้านการขึ้นให้การของภรรยา แต่ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์นิกเกอิที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (26 มี.ค.) ปรากฏว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 62% ต้องการให้ภรรยานายกรัฐมนตรีตอบข้อซักถามของสภา

อากิเอะ วัย 55 ปี สร้างปรากฏการณ์ใหม่นับจากที่สามีได้โอกาสบริหารประเทศเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2012 ด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น ร่วมขบวนพาเหรดสนับสนุนสิทธิ์กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (แอลจีทีบี) การต่อต้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และการไปพบผู้ประท้วงต่อต้านแผนการประจำการของทหารอเมริกันในโอกินาวะ ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ได้ใจผู้สนับสนุนแนวทางเสรีนิยม

แนวคิดก้าวหน้าเหล่านั้นทำให้อากิเอะได้ฉายาว่า “ฝ่ายค้านในบ้าน” และทำให้ภาพสายเหยี่ยวของอาเบะผ่อนคลายลง

อย่างไรก็ตาม บางครั้งอากิเอะก็แสดงความเห็นหรือพฤติกรรมที่สอดคล้องกับแนวทางอนุรักษนิยมของสามีอย่างเปิดเผย เช่น การไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งรวมถึงสองผู้นำที่ถูกกลุ่มสัมพันธมิตรวินิจฉัยว่าเป็นอาชญากรสงคราม จีนและเกาหลีใต้มองว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ลัทธิทหารในอดีตของญี่ปุ่น

อากิเอะเดินทางไปสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคม 2013 หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย เพื่อป้องกันไม่ให้ปักกิ่งและโซลไม่พอใจ

ก่อนที่เรื่องอื้อฉาวล่าสุดนี้จะแดงขึ้น สตรีหมายเลขหนึ่งของญี่ปุ่นผู้นี้ถูกวางตัวให้ดำรงตำแหน่งครูใหญ่กิตติมศักดิ์ของโรงเรียนประถมที่ "โมริโตโมะ กาคูเอ็น" มีแผนเปิดในทางตะวันตกของญี่ปุ่น บนที่ดินที่ซื้อมาในราคาลดพิเศษ เธอยังไปเยี่ยมเยือนโรงเรียนอนุบาลของโมริโตโมะที่ใช้หลักสูตรส่งเสริมแนวทางชาตินิยมก่อนสงครามที่มีศูนย์กลางที่พระจักรพรรดิ์

อากิเอะงดแสดงความคิดเห็นโดยตรง หลังจากเรื่องอื้อฉาวนี้กลายมาเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองในเดือนนี้ ถึงกระนั้น เธอก็ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากท่าทีที่ดูเหมือนไม่รับรู้ใดๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เมื่อค่ำวันที่ 9 ที่ผ่านมาที่สื่อรายงานว่า ตำรวจกำลังสอบสวนความเป็นไปได้ในการฆ่าตัวตายของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกระทรวงการคลังในหน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบข้อตกลงขายที่ดินอื้อฉาวนั้น อากิเอะกลับไปร่วมงานสังสรรค์ของไฮโซคนดัง

ในวันเดียวกันนั้น เธอยังโพสต์ภาพตัวเองยิ้มแย้มในงานอาร์ตแฟร์วันสตรีสากลที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน และมีบางคนไปแสดงความคิดเห็นว่า “ฆาตกร” บนโพสต์ดังกล่าว

นักข่าวหญิง มากิโกะ ทาคิตะ เสนอแนะในบทความของซังเค ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แนวอนุรักษนิยมว่า ได้เวลาที่อากิเอะควรเก็บตัว เนื่องจากคำพูดและการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเธอกำลังบ่อนทำลายรัฐบาล