“อาเบะ” ก้มหัวขอโทษหลังเกิดข่าวขายที่ดินฉาว แต่ยังยันจะแก้รธน.แน่นอน

รอยเตอร์ - วันนี้(25 มี.ค) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ออกมาขอโทษภายในที่ประชุมพรรค หลังเกิดความสับสนและไม่มั่นใจในชุดรัฐบาลของชา จากเหตุการณ์ขายที่ดินของรัฐให้กับผู้ใกล้ชิดภรรยาจนนำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ และกระทบความเชื่อมั่นดิ่งฮวบ แต่ยังยืนยันที่จะแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ชี้ถือเป็นงานตั้งแต่ก่อตั้งพรรครัฐบาลLPD

รอยเตอร์รายงานวันนี้(25 มี.ค)ว่า กลุ่มผู้ประท้วงแสดงความไม่พอใจ และกดดันให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นลาออก เกิดขึ้นบริเวณด้านนอกที่จัดการประชุมพรรครัฐบาล LPD ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ

รอยเตอร์ชี้ว่า อาเบะต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เข้ามามีอำนาจนับตั้งแต่ธันวาคม ปี 2012 หลังเกิดความสงสัยไปทั่วถึงการขายที่ดินรัฐในราคาที่ต่ำให้แก่บริษัทบริหารโรงเรียนที่ใกล้ชิดกับอากิเอะ อาเบะ ภรรยานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ผู้นำญี่ปุ่นได้ก้มหัวข้อโทษภายในที่ประชุมใหญ่พรรควันอาทิตย์(25) พร้อมกับประกาศว่า “ปัญหานี้ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อชุดรัฐบาล” และกล่าวต่อว่า “ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล ผมรู้สึกอย่างแรงกล้าต่อความรับผิดชอบของตัวเอง และผมขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อประชาชน”

ทั้งนี้ผู้นำญี่ปุ่นประกาศการที่จะทำให้ความจริงปรากฎมากขึ้น และป้องกันการเกิดข่าวลือใหม่ด้วยการทำให้หน่วยงานทำงานร่วมกัน แต่ทว่าอาเบะไม่ส่งสัญญาณที่จะลาออกจากตำแหน่ง

ที่ผ่านมาทั้งอาเบะและภรรยาปฎิเสธถึงการเข้าแทรกแซงข้อตกลงการขายที่ดินที่อื้อฉาว ที่เขาต้องการดัดแปลงในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง

ในขณะเดียวกัน ทาโร อาโซ รัฐมนตรีการคลังญี่ปุ่น พันธมิตรที่ใกล้ชิดของผู้นำญี่ปุ่น ออกมาปฎิเสธความเกี่ยวข้องในการแก้ไขเอกสารที่เกิดขึ้นในระดับเจ้าหน้าที่กระทรวงเช่นกัน

ซึ่งผลสำรวจความเชื่อมั่นของชุดครม.อาเบะ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีความนิยมเหลือแค่ 31%เท่านั้น โดยส่วนใหญ่ของสสาธารณะมองว่า ผู้นำญี่ปุ่นมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

การลดลงในคะแนนนิบมอาจดำฝันอาเบะใน 3 สมัยของการเป็นผู้นำญี่ปุ่นพรรค LPD ที่จะมีการลงคะแนนมในเดือนกันยายนที่จะถึง ซึ่งหากชนะจะทำให้อาะเบะกลายเป็นผู้นำที่ยาวนานที่สุดไป

และในที่ประชุมพรรค LPD วันนี้(25) พบว่าทางพรรคได้อนุมัติข้อเสนอแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นที่ต้องการระบุอย่างชัดเจนถึง “กองกำลังป้องกันตัวเองญี่ปุ่น” ให้เป็นที่รู้จักในฐานะกองทัพญี่ปุ่น

“เวลาได้มาถึงแล้วต่อการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่เป็นงานที่ต้องทำนับตั้งแต่การก่อตั้งพรรค” ผู้นำ ชินโซ อาเบะกล่าว และเสริมว่า “ขอให้มีการระบุให้ชัดเจนถึงกองกำลังปกป้องตนเองญี่ปุ่น และให้ข้อกล่าวหาที่อื้อฉาวในการละเมิดรัฐธรรมนูญต้องหมดไป”

ทั้งนี้ในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา อาเบะเสนอให้มีการแก้ไข 2 วรรคแรกของมาตรา 9 ที่ประกาศห้ามต่อสิทธิการเข้าสู่สงคราม และห้ามการก่อตั้งกองทัพถาวร ซึ่งถือแม้ว่าจะไม่มีการแก้ไขแต่ว่าจะให้เพิ่มการอ้างอิงต่อกองกำลังปกป้องตัวเองญี่ปุ่น SDF ที่แต่เดิมมีสถานะคลุมเคลือ

แต่ทว่าถึงจะมีการห้ามการก่อตั้งกองทัพถาวร แต่รัฐบาลญี่ปุ่นตีความข้อกฎหมายว่า แต่อย่างไรก็ตามทางญี่ปุ่นสามารถใช้สิทธิ์ในการปกป้องตนเองได้ ซึ่งทางอาเบะต้องการให้สถานะนั้นมีความเด่นชัดในกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงจะไม่มีส่งผลต่อนโยบายความมั่นคงญี่ปุ่น

ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ต่างกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็นช่องให้ญี่ปุ่นเพิ่มบทบาทมากขึ้นในทางด้านการทหารในต่างแดน

รอยเตอร์รายงานว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญนั้นไม่เคยมีการแก้ไขมาก่อน และการแก้ไขใดๆต้องด้เสียงสนับสนุนอย่างน้อย 2 ใน 3 จากทั้ง 2 สภา รวมไปถึงเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนผ่านทางการทำประชามติ