เอเจนซีย์ – ท่ามกลางความกลัวการเกิดสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติยักษ์ใหญ่ ล่าสุดสหรัฐฯออกมาเรียกร้องปักกิ่งผ่านที่ประชุมองค์การค้าโลก WTO ให้ยกเลิกมาตรการห้ามการนำเข้าขยะและขยะรีไซเคิลจากสหรัฐฯที่ทางจีนออกมาขู่ว่าใช้เมื่อกรกฎาคมปีก่อนหน้า
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(25 มี.ค)ว่า ในความพยายามที่จะต่อสู้กับขยะเถื่อนต่างแดนที่ส่งเข้าจีนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมจีนได้แจ้งเตือนไปยังองค์การค้าโลก WTO ว่า ทางจีนมีแผนที่จะออกกฎหมายห้ามการนำเข้าขยะแข็ง 24 ประเภท เช่น ขวดน้ำอัดลม กระดาษ เหล็กที่ถูกรีไซเคิล และสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งถึงแม้ว่า จะมีการกำหนดที่จะเริ่มบังคับใช้ในสิ้นปีที่ผ่านมา แต่ทว่าเอกสารแจ้งว่า “การเลื่อนกำหนดเวลาการบังคับใช้นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณา”
ทั้งนี้มีความกังวลว่าการห้ามนำเข้าขยะและสิ่งรีไซเคิลจากต่างประเทศของจีนอาจมีผลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯในวันศุกร์(23) ออกมาเรียกร้องให้ปักกิ่งพิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง
“เราขอให้จีนสั่งห้ามทันทีต่อการบังคับใช้ และปรับปรุงมาตรการเหล่านี้ให้สอดคล้องไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศด้านการค้าเศษเหล็กที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่ทำให้เกิดกรอบการทำงานระดับโลกเพื่อความโปร่งใส และเกิดสภาวะทางการค้าที่ดีในขยะรีไซเคิล” โฆษกสหรัฐฯแถลงต่อหน้าคณะมนตรีองค์การค้าโลก WTO ด้านการค้าสินค้า (Council for Trade in Goods)ที่เมืองเจนีวา
และผู้แทนการค้าสหรัฐฯได้ชี้ไปว่า อ้างอิงจากรอยเตอร์ “การจำกัดการนำเข้าสิ่งรีไซเคิลของจีน ทำให้เกิดการติดขัดขั้นพื้นฐานในซัพพลายเชนระดับโลกต่อผลิตภัณฑ์ขยะ ทำให้สิ่งเหล่านี้ออกห่างจากกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ และเดินหน้าไปสู่การทิ้งถาวรแทน”
สื่อรัสเซียชี้ การออกมาเรียกร้องให้จีนยกเลิกการห้ามนำเข้าขยะและสิ่งรีไซเคิลต่างชาติ เกิดขึ้น 1 วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯ USTR เพิ่มเพดานภาษีนำเข้าสินค้านำเข้าจีนเป็นอย่างน้อยจำนวน 50 พันล้านดอลลาร์
ซึ่งถึงแม้ว่าทางผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯจะมีเวลา 15 วันที่จะเสนอรายชื่อสินค้าสัญชาติจีนที่จะตกเป็นเป้าหมาย กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกมาข่มขู่วอชิงตันที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับสหรัฐฯผ่านทางองค์การค้าโลก ซึ่งในเวลานี้ปักกิ่งได้ตั้งเป้าต่อสินค้าอเมริกัน 128 ชนิดเพื่อตอบโต้ทางการค้า
RT ชี้ว่า จีนถือเป็นประเทศหลักที่นำเข้าขยะรีไซเคิลจากสหรัฐฯ ดังนั้นการแบนการนำเข้าของปักกิ่งครั้งนี้ เชื่อแน่ว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานอเมริกาอย่างแน่นอน และจะส่งผลทำให้การจัดการรีไซเคิลของสหรัฐฯมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
อ้างอิงจากสถาบันอุตสาหกรรมรีไซเคิลขยะอเมริกาISRI พบว่าในปี 2016 มีการส่งขยะเข้าจีน คิดรวมราว 5.6 พันล้านดอลลาร์ และทำให้เกิดงานทั่วทั้งอุตสาหกรรมการรีไซเคิลราว 155,000 ตำแหน่ง
ซึ่งในวันศุกร์(23) ผู้แทนการค้าจีนในเจนีวา ตกลงที่จะนำข้อเรียกร้องของสหรัฐฯไปให้รัฐบาลจีนรับทราบ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้แทนการค้าจีนชี้ว่า แต่ละประเทศถือเป็นความรับผิดชอบในการจัดการขยะของตัวเอง
ทั้งนี้โรบิน วีน (Robin Wiene) ประธาน ISRI ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีก่อนหน้าว่า “ในแตละปี พบว่า 1 ใน 3 ของขยะรีไซเคิลอเมริกานั้นถูกเตรียมเพื่อส่งต่อเข้ากับตลาดส่งออก และจีนถือเป็นลูกค้าขยะรีไซเคิลที่ใหญ่ที่สุด”
และกล่าวต่อว่า “นี่รวมถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์ในขยะที่เป็นกระดาษ และ 4.9 ล้านดอลลาร์ในเศษพลาสติก ซึ่งการห้ามการนำเข้าสินค้าขยะรีไซเคิลจะถือเป็นเสมือนหายนะของอุตสาหกรรมการรีไซเคิลขยะทีเดียว”