เอเอฟพี – วาฬนำร่องครีบสั้นอย่างน้อย 135 ตัวตายในวันนี้ (23) หลังจากการเกยตื้นเป็นจำนวนมากในออสเตรเลีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามต้อนตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ออกสู่ทะเล
การเกยตื้นของวาฬ 150 ตัวที่ฮาเมลินเบย์ ห่างจากเมืองเพิร์ทไปทางใต้ราว 315 กิโลเมตร ถูกพบโดยชาวประมงพาณิชย์คนหนึ่งเมื่อตอนฟ้าสาง และมีความกังวลกันว่าซากวาฬเหล่านี้อาจดึงดูดฉลาม
หน่วยอุทยานและสัตว์ป่าของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่และกำลังประเมินสุขภาพและสวัสดิภาพของวาฬ 15 ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่
“วาฬเกือบทั้งหมดนี้ขึ้นมาเกยตื้นบนบกด้วยตัวของพวกมันเองเมื่อคืนนี้และไม่รอดชีวิต” เจเรมี ชิค ผู้ควบคุมเหตุฉุกเฉิน ซึ่งระบุว่าเสริมว่า พวกเขากำลังรอความช่วยเหลือและเครื่องมือเพื่อช่วยในปฏิบัติการช่วยชีวิต กล่าว
“เรี่ยวแรงของสัตว์เหล่านี้และสภาพอากาศที่มีลมแรงและชื้นจะส่งผลกระทบเมื่อเราพยายามเคลื่อนย้ายพวกมันออกสู่ทะเล”
“เป้าหมายหลักคือการรับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครตลอดจนโอกาสรอดชีวิตของวาฬเหล่านี้ให้มากที่สุด”
ชายหาดฮาเมลินซึ่งถูกตั้งชื่อตามนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ฌาค เฟลิกซ์ เอ็มมานูเอ ฮาเมลิน ซึ่งล่องเรือผ่านพื้นที่นี้ในช่วงปี 1801 ถูกปิดหลังมีการเตือนภัยฉลามในพื้นที่นี้
วาฬนำร่องครีบสั้นอาศัยในน่านน้ำเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนและมักถูกพบเห็นเป็นกลุ่มหลายร้อยตัว เมื่อพวกมันเกยหาด พวกมันจึงมักขึ้นมาด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมการเกยตื้นหมู่จึงเกิดขึ้นนั้นยังไม่มีใครทราบ
มีการตั้งทฤษฎีมากมายรวมถึงทฤษฎีที่ว่ารูปร่างของแนวชายฝั่งเป็นปัจจัยร่วม วาฬตอบสนองต่อสัญญาณแจ้งเหตุร้ายจากวาฬตัวอื่นๆ หรือกลุ่มตามจ่าฝูงเข้าสู่ชายฝั่ง
การเกยตื้นหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในภาคตะวันตกของออสเตรเลียที่เมืองดันส์โบโรห์ในปี 1996 เมื่อวาฬนำร่องครีบยาว 320 เข้ามายังชายฝั่ง แต่เหลือรอดเพียงแค่ 20 ตัว
