เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ตระกูลกุปตา(Gupta )ที่ทรงอิทธิพลในแอฟริกาใต้ และเกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันฉาวจนทำให้อดีตประธานาธิบดี จาค็อบ ซูมา ต้องตกจากที่นั่ง ล่าสุดวันจันทร์(19 มี.ค)ถูกสั่งให้ต้องคืนเครื่องบินเจ็ต หลังจากธนาคารเพื่อการส่งออกแคนาดายื่นเรื่องร้องศาลแอฟริกาใต้ อ้างผิดสัญญาไม่จ่ายค่าเช่าซื้อเครื่องบินรุ่น บอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 มูลค่า 41 ล้านดอลลาร์ ศาลสูงโจฮันเนสเบิร์กให้เวลาแค่ 15 วันต้องส่งมอบคืน สั่งจอดให้เห็นในสนามบินแลนเซอเรีย(Lanseria) สื่อลือหึ่ง พบแอบดอดบินเข้ารัสเซียตั้งแต่ต้นกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(19 มี.ค)ว่า ศาลสูงแอฟริกาใต้ในเมืองโจฮันเนสเบิร์กออกคำสั่งในวันจันทร์(19) กำหนดให้ตระกูลกุปตา(Gupta ) ที่ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ จาค็อบ ซูมา ต้องส่งคืนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวภายใน 15 วัน ซึ่งในเวลานี้เอเอฟพีชี้ว่า ยังไม่ทราบว่าเครื่องบินรุ่น บอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 (Bombardier Global 6000) อยู่ที่ใด
ในคำสั่งระบุว่า ทางตระกูลกุปตาต้องให้เครื่องบินยังคงอยู่บนภาคพื้น และกำหนดให้เก็บเครื่องบินลำนี้ภายในท่าอากาศยานแลนเซอเรีย(Lanseria) นอกเมือง
“ภายใน 15 วันตามเวลาปฎิทินหลังจากคำสั่งนี้ออกมา บริษัทกุปตาจะต้องส่งมอบเครื่องบินบอมบาร์ดิเออร์” เพื่อให้อยู่ในการอารักขาของธนาคารการพัฒนาเพื่อการส่งออกแคนาดา EDC ภายในท่าอากาศยานแลนเซอเรีย ออกโดยผู้พิพากษาษศาลสูง ฟายีซา คาทรี-ซาติโลนี(Fayeeza Kathree-Setiloane)
นอกจากนี้ในคำสั่ง ผู้พิพากษาศาลสูงแอฟริกาใต้ยัง “ห้ามและจำกัด” ตระกูลกุปตาจากการเข้าครอบครองหรือใช้เครื่องบินส่วนตัวลำดังกล่าว ซึ่งพบว่าตระกูลกุปตาก่อนหน้าได้ทำการเช่าซื้อเครื่องบินจาก สโตนริเวอร์(StoneRiver) บริษัทซอฟต์แวร์ด้านประกันภัย ซึ่งบริษัทแห่งนี้ได้ใช้เงินของEDC ในการซื้อเครื่องบินบอมบาดิเออร์ โกลบอล 6000
เอเอฟพีชี้ว่า EDC เป็นธนาคารเพื่อส่งเสริมการส่งออกของรัฐบาลแคนาดา ได้ยื่นเรื่องร่วมกับบริษัทสโตนริเวอร์ต่อศาลแอฟริกาใต้ เกิดขึ้นหลังทางตระกูลกุปตาผิดนัดการชำระค่าเช่าซื้อเครื่องบินจำนวน 41 ล้านดอลลาร์
และนอกจากนี้ยังพบว่า ศาลแอฟริกาใต้ยังออกคำสั่งไปยังสำนักการบินแอฟริกาใต้อนุญาตให้ยกเลิกใบอนุญาตจดทะเบียนเครื่องบินลำดังกล่าวหากว่า ทางตระกุลกุปตาไม่ยอมทำตามส่งมอบเครื่องบินคืนตามคำสั่งศาล
ทั้งนี้ทาง EDC เกรงว่าเครื่องบินบอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 อาจจะถูกนำไปใช้ในทางผิด เนื่องมาจากพบว่าระบบการติดตามค้นหาที่ถูกติดบนเครื่องนั้นถูกปิดลง
ผู้พิพากษา คาทรี-ซาติโลนี กล่าวว่า จากหลักฐานที่บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ตระกูลกุปตาไม่ต้องการให้สาธารณะรับรู้ว่า ในเวลานี้เครื่องบินที่ถูกสั่งยึดนั้นอยู่ที่ใด ทำให้สิ่งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่า การปกปิดนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุที่เครื่องบินได้ถูกนำไปใช้ทางที่ผิดกฎหมาย
โดยในการรายงานของสื่อ 24นิวส์เมื่อกุมภาพันธ์ปีนี้กล่าวว่า มีการบ่งชี้ว่าเครื่องบินเจ็ตของตระกูลกุปตาถูกพบร่อนลงจอดในรัสเซีย โดยในรายงานระบุว่า บอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 ที่ถูกจดทะเบียนภายใต้รหัส ZS-OAK ได้บินออกมาจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังเมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 13 ธ.ค 2017
และพบว่าถูกจอดอยู่ที่ซูริคเป็นเวลา 6 วันก่อนที่จะใช้เวลา 36 นาทีในการเดินทางไปยัง EuroAirport Basel Mulhouse Freiburg ในสวิตเซอร์แลนด์ และจากที่นั่นพบว่าเครื่องบินเจ็ตลำนี้จอดอยู่นานร่วม 1 เดือนก่อนที่จะทำการขึ้นบินอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 ม.ค 2018
โดยในช่วงเดือนธันวาคม มีรายงานไปทั่วอย่างหนาหูว่า ตระกูลกุปตาผิดนัดในการชำระคืนหนี้กู้ยืมสำหรับการเช่าซื้อเครื่องบินเจ็ตลำนี้ อ้างอิงจากสื่อไฟแนนเชียล เมล พบว่า ทาง EDC ได้ให้เงินกู้เป็นจำนวน 80% ของราคาเครื่อง
ธนาคาร EDC ได้ปล่อยกู้ให้กับตระกูลกุปตาจำนวน 41 ล้านดอลลาร์เพื่อสำหรับการซื้อ บอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 โดยถูกซื้อมาจากบริษัทบอมบาดิเอร์ แอโรสเปซ ในปี 2014 และทางธนาคารได้ทำการช่วยเหลือด้านการเงินที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทเวสต์ดาวน์ อินเวสต์เมนต์(Westdawn Investments) ของตระกูลกุปตาและบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน
ในการรายงานของสื่อ 24นิวส์เมื่อวันที่ 7 ก.พ 2018 ได้อ้างอิงการติดตามเส้นทางการบินของตระกูลกุปตาชี้ว่า ***หลังก่อนหน้าพบบอมบาดิเอร์ โกลบอล 6000 บินออกจากเมืองดูไบไปยังกรุงนิวเดลี อินเดีย และในวันที่ 7 ก.พ ซึ่งเป็นที่สื่อเผยแพร่ พบว่าเครื่องบินลำนี้บินเข้าไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย ***
ซึ่งสื่อ 24 นิวส์ชี้ว่า เครื่องบินลำนี้ก่อนหน้าไม่ได้พบว่าอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้นานหลายเดือนแล้ว และอีกทั้งไม่ปรากฎว่าสมาชิกตระกูลกุปตานั้นยังคงอยู่ในประเทศ หรือเดินทางออกนอกประเทศและกลับเข้ามาหรือไม่
แต่มีรายงานล่าสุดเมื่อวานนี้(19)ว่า อินเดียได้ออกคำสั่งยึดทรัพย์สินของพี่น้องตระกูลกุปตาในอินเดียเนื่องมาจากคดีเลี่ยงภาษี โดยสื่อไทม์ออฟอินเดียกล่าวว่า ในปฎิบัติการบุกค้น 4 วัน อสังหาริมทรัพย์ของพี่น้องตระกูลกุปตาอาตุล(Atul) อาเจย์( Ajay) และราเจช(Rajesh )ที่ถูกยึดอย่างน้อย 31 แห่งได้ถูกเข้าบุกค้น และพบว่ามีการยึดเอกสารที่ได้มาจากสถานที่เหล่านี้ซึ่งได้ระบุไปยังอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์สินร่วม 60ประเภทของพี่น้องตระกูลกุปตาโดยพบว่าตระกูลกุปตาใช้ "รหัสเรียกขานแทน" เพื่อแอบซ่อนที่ตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สรรพากรแดนภารตะรู้
ตระกูลกุปตาที่มีเชื้อชาติอินเดีย และอพยพมาจากรัฐอุตตรประเทศ อินเดีย ก่อนหน้านี้พี่น้องตระกูลกุปตาได้เคยเรียกทั้งดูไบและอินเดียว่าเป็น “บ้าน” และพบว่าตระกูลนี้ยังคงมีญาติจำนวนมากที่ยังคงอาศัยอยู่ในอินเดีย
ทั้งนี้ตระกูลกุปตาถูกกล่าวหาในความผิดคอร์รัปชันร่วมกับอดีตประธานาธิบดีซูมา โดยถูกชี้ว่าได้รับเอื้อประโยชน์ทางนโยบายทางการเมือง ทำใหได้ข้อตกลงกับรัฐ และนำมาสู่การลาออกของซูมาในที่สุดในเดือนก่อนหน้าท่ามกลางความกดดันอย่างหนักจากพรรคแอฟริกัน เนชันแนล คองเกรส ของเขาเอง ซึ่งซูมานั่งดำรงตำแหน่งบริหารประเทศแอฟริกาใต้มาอย่างยาวนานถึง 9 ปี
