รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(18 มี.ค) เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัสซาด เดินทางไปเยี่ยมกองกำลังซีเรียของตนเองภายในเขตกูตาตะวันออก(eastern Ghouta) พบภาพอัสซาดกล่าวสุนทรพจน์ข้างรถถัง SOHR สังเกตการณ์ซีเรียยัน กองกำลังรัฐบาลซีเรียสามารถยึดพื้นทีคืนได้ไม่ต่ำกว่า 80% แล้วในเวลานี้
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(18 มี.ค)ว่า นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ล่าสุดที่ทางซีเรียใช้การโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องและการบุกจากภาคพื้น ทำให้ล่าสุดเขตพื้นที่กูตาตะวันออก(eastern Ghouta) นอกชานเมืองกรุงดามัสกัสถูกซีเรียยึดกลับคืนได้สำเร็จไม่น้อยกว่า 80% ของพื้นที่ อ้างอิงจากกลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียSOHR ที่มีฐานในอังกฤษ
และเป็นครั้งแรกพบว่าผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด เดินทางไปยังพื้นที่กูตาตะวันออกเพื่อเข้าเยี่ยมกองกำลังในวันอาทิตย์(18) เกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่พื้นที่นี้ถูกยึดโดยฝ่ายกบฎตั้งแต่ปี 2012 พบภาพสถานีโทรทัศน์ซีเรียได้เผยแพร่ภาพอัสซาดยืนใกล้กับรถถังคันหนึ่งที่มีทหารซีเรียรายล้อมในจุดหนึ่งที่ไม่มีการเปิดเผยในเขตกูตาตะวันออก
“รถถังทุกคันที่ถูกนายทหารขับเคลื่อนไปข้างหน้า 1 เมตร ได้เปลี่ยนแผนที่ทางการเมืองของโลก” ประธานาธิบดีซีเรีย อัสซาด กล่าวผ่านแถลงการณ์ของสื่อทางการซีเรีย สำนักข่าวซานา รอยเตอร์รายงาน
ในขณะเดียวกันบุคคลสำคัญใกล้ชิดกับกลุ่มกบฎให้ข้อมูลเปิดเผยว่า ในขณะนี้การเจรจากำลังเกิดขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต้องการให้กลุ่มกบฎยอมถอยไปจากจุดอื่น หรือยอมที่จะปลดอาวุธตนเอง ซึ่งถึงแม้ว่าในทางสาธารณะทางกลุ่มกบฎจะออกมาปฎิเสธการเข้าร่วมการเจรจาการถอนตัวที่จะช่วยให้อัสซาดได้อเลปโป เมืองฮอมส์ หรือเมืองอื่นๆกลับคืน
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอรว่า “การคืบหน้าของกองทัพซีเรียในไม่กี่วันมานี้ได้สร้างแรงกดดันต่อกลุ่มฝ่ายตรงข้าม และทุกฝ่ายต้องการที่จะได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด” รอยเตอร์ชี้ว่า แหล่งข่าวรายนี้กล่าวโดยไม่มีการอธิบายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลซีเรียต้องการสร้างความแตกแยกภายในกลุ่มฝ่ายตรงข้ามที่ควบคุมพื้นที่ส่วนต่างๆในเขตกูตาตะวันออก ด้วยการพยายามจะจัดให้มีการเจรจาลับกับกลุ่มต่างๆโดยตรง รวมไปถึงการเพิ่มความกดดันทางการทหาร ใช้วิธีแบ่งแยกและปกครองซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ดามัสกัสใช้ หนึ่งในแหล่งข่าวฝ่ายตรงข้ามชี้
รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มกบฎหลักที่ยึดครองในทางใต้ของเขตกูตาตะวันออกคือ กลุ่มฟาลิค อัล-ราห์มัน(Failaq al-Rahman) ออกมาแถลงเมื่อวานนี้(18)ว่า ทางกลุ่มกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับตัวแทนขององค์การสหประชาชาติถึงข้อตกลงหยุดยิง ความช่วยเหลือ และการอพยพออกไปในส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์เร่งด่วน
วาเอล อัลวาน(Wael Alwan) โฆษกของทางกลุ่มที่มีฐานอยู่ในเมืองอิสตันบูล ตุรกี กล่าวว่า “ทางเราอยู่ในระหว่างการเจรจาที่เคร่งเครียดเพื่อให้การรับประกันด้านความปลอดภัยและการปกป้องพลเรือน” และกล่าวต่อว่า “แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเจรจาคือ การหยุดยิง เพื่อทำให้มั่นใจว่าในการส่งความช่วยเหลือไปยังพลเรือน และการเคลื่อนย้ายออกมาในกรณีปัญหาด้านการแพทย์ และผู้บาดเจ็บที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลนอกพื้นที่กูตา”
แต่อย่างไรก็ตามโฆษกกลุ่มกบฎ ฟาลิค อัล-ราห์มัน ยืนยันว่า การเจรจาในการอพยพประชาชนและสมาชิกกลุ่มกบฎนั้นไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจา
ทั้งนี้พบว่ามีจำนวนผู้ได้รับการอพยพฉุกเฉินทางการแพทย์นั้นสามารถเดินทางออกมาได้จากพื้นที่ทางตอนเหนือของเขตกูตาตะวันออก และความช่วยเหลือการบรรเทาทุกข์สามารถถูกส่งเข้าพื้นที่ไปได้ในไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเขตทางใต้ของพื้นที่ถูกปิดล้อม
รอยเตอร์ชี้ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกลุ่มกบฎ ฟาลิค อัล-ราห์มัน ที่ยึดทางใต้ของเขตกูตาตะวันออก และกลุ่มกบฎJaish al-Islam ที่ควบคุมในทางเหนือของเขตกูตาตะวันออกให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ในเวลานี้การเจรจายังคงเดินหน้าต่อไปสำหรับการโยกย้ายนักรบของกลุ่มกบฎทั้งสองไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือและทางตอนใต้ของซีเรียตามลำดับ
และในวันอาทิตย์(18) สื่อทางการซีเรียยังรายงานว่า กองทัพซีเรียได้ยื่นคำขาดให้กลุ่มกบฎที่ควบคุมพื้นที่ปิดล้อมที่มีขนาดเล็กกว่าคือ ฮาราสตา(Harasta) ให้ถอนตัวออกไป
โดยแหล่งข่าวจากกลุ่มกบฎกูตา ไพรวี( Ghouta privy) ซึ่งอยู่ในการเจรจาชี้ว่า ตัวแทนได้เดินทางออกไปจากพื้นที่ฮาราสตาแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการพยายามให้ได้ข้อตกลงที่จะให้เกิดข้อตกลงการยอมแพ้ที่เคยมีก่อนหน้า สำหรับในพื้นที่ของกลุ่มกบฎที่ถูกโจมตีทางอากาศและถูกเข้ายึด
โดยในช่วงบ่ายวันอาทิตย์(18) เขากล่าวว่า มีข้อตกลงในหลักการเกิดขึ้น และจะได้รับการบังคับใช้ภายใน 24-48 ช.มข้างหน้า
ทั้งนี้พบว่ากลุ่มกบฎได้รับข้อเสนอ 2 ทางเลือกคือ ทางแรกต้องเดินทางออกจากพื้นที่เพื่อไปยังพื้นที่กลุ่มกบฎทางตอนเหนือของซีเรีย หรือทางที่สอง ยังคงอยู่ในพื้นที่แต่ต้องยอมเป็นกลุ่มติดอาวุธสนับสนุนอัสซาด และทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่อไป และพบว่าที่ผ่านมามีสมาชิกกบฎซีเรียจำนวนหลายร้อยคนยอมมอบตัวภายในช่วงเวลา 48 ช.มล่าสุด และเริ่มต้นเจรจากับรัฐบาลซีเรีย แหล่งข่าวกบฎซีเรียในพื้นที่อีกคนให้ความเห็น
และแหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในอีกเงื่อนไขที่ทางสมาชิกกบฎจำเป็นต้องทำตามคือ การยอมมอบอาวุธของพวกกบฎออกมา
ซึ่งสำหรับสถานการณ์สู้รบภายในเขตกูตาตะวันออกพบว่า หลังจากที่ช่วงเช้ามีความสงบดี แต่ทว่าการปะทะทางภาคพื้นได้กลับมาอีกครั้งทั่วทั้งเขตในช่วงบ่ายวันอาทิตย์(18) SOHR ชี้
ด้านองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประเมินว่า ประชาชนชาวซีเรียอพยพออกมาจากเขตสู้รบกูตาตะวันออกแล้วราว 25,000 คน โดยคนเหล่านี้ถูกนำตัวส่งไปยังค่ายผู้อพยพ 3 แห่ง