xs
xsm
sm
md
lg

อดีตนายพลสี่ดาวอเมริกันระบุชัดๆ ทรัมป์คือ ‘ภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>พลเอก แบร์รี แมคแคฟฟรีย์ (เกษียณอายุ) ขณะทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ให้ เอ็มเอสเอ็นบีซี  ซึ่งเป็นสื่อหนึ่งของค่ายเอ็นบีซี </i>
ฮัฟฟ์โพสต์/อินดีเพนเดนต์ – นายพลสี่ดาวเกษียณอายุของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา

พลเอก แบร์รี แมคแคฟฟรีย์ (Barry McCaffrey) ตั้งข้อกล่าวหาเช่นนี้ในข้อความที่เขาโพสต์ทางทวิตเตอร์ โดยเขาบอกว่า ทรัมป์ “ตกอยู่ใต้การบงการ” ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และพลังต่างๆ จากฝ่ายรัสเซีย

“ด้วยความลังเลใจแต่ผมต้องขอสรุปว่า ประธานาธิบดีทรัมป์คือภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ” แมคแคฟฟรี เขียนในข้อความที่เขาโพสต์ “เขากำลังปฏิเสธไม่ยอมปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ต่างๆ ที่สำคัญยิ่งยวดของสหรัฐฯ จากการถูกโจมตีอย่างกระตือรือร้นจากฝ่ายรัสเซีย มันดูเหมือนกับว่าด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นที่ทราบกันบางประการ เขากำลังตกอยู่ใต้การบงการของมิสเตอร์ปูติน”

แมคแคฟฟรีย์เป็นอดีตนายทหารที่ได้รับเหรียญตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์มากมาย และเวลานี้ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ให้แก่ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐฯ (NBC News) เขายังเคยทำงานให้คณะบริหารของประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของสำนักงานนโยบายควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ (Office of National Drug Control Policy)

รัสเซียนั้นถูกกล่าวหาว่าเข้าแทรกแซงก้าวก่ายการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ของสหรัฐฯ ด้วยการใช้บ็อตทวิตเตอร์จำนวนมาก และลงโฆษณาทางเฟซบุ๊กอย่างมีเป้าหมาย เพื่อทำให้ผลการเลือกตั้งเอนเอียงมาในทางเป็นประโยชน์แก่ทรัมป์ โดยที่ตั้งแต่ทรัมป์ชนะและขึ้นเป็นประธานาธิบดี เขาแสดงท่าทีลังเลไม่อยากตอบโต้เล่นงานปูตินและรัฐบาลของเขาจากการที่เข้าก้าวก่ายแทรกแซงการเลือกตั้งดังกล่าว

ตั้งแต่การเลือกตั้งคราวนั้นแล้วเช่นกัน ยังมีคำถามตัวโตๆ ที่ยังต้องการคำตอบ ในเรื่องที่ว่าตัวทรัมป์เองและทีมงานของเขามีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนในการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียนี้ และพวกสมาชิกในทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์มีการสมรู้ร่วมคิดกับความพยายามนี้ของฝ่ายรัสเซียหรือไม่
<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ หรือก็คือ อัยการพิเศษ ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งกำลังสอบสวนเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันเมื่อปี 2016 </i>
ขณะที่ทรัมป์ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีการสมคบคิดระหว่างเขากับรัสเซีย แต่การสอบสวนที่ดำเนินการโดย โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วก็ได้นำไปสู่การกล่าวโทษฟ้องร้องบุคคลหลายคนซึ่งใกล้ชิดกับทรัมป์หรือกับทีมรณรงค์หาเสียงเมื่อปี 2016 ของเขา

การฟ้องร้องกล่าวโทษเหล่านี้ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ความผิดอาชญากรรมทางการเงินซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงของฝ่ายรัสเซีย อย่างไรก็ดีมีการเสนอทฤษฎีว่า ทีมงานของมุลเลอร์พยายามใช้การฟ้องร้องกล่าวโทษเหล่านี้ด้วยจุดประสงค์ที่จะบีบบังคับให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา ต้องยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของฝ่ายรัสเซีย

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังถูกกล่าวหาจากฝ่ายปรปักษ์และสื่อจำนวนมากว่า ใช้ท่าทีเงียบเฉยอย่างเป็นปริศนา เมื่อเผชิญการยั่วยุท้าทายจากรัสเซีย

เป็นต้นว่า ตอนต้นเดือนมีนาคมนี้ ปูตินคุยโวเกี่ยวกับสมรรถนะด้านอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย โดยที่วิดีโอจำลองภาพสถานการณ์ที่เขานำเสนอนั้นดูเหมือนทำเป็นเป็นภาพขีปนาวุธนิวเคลียร์รุ่นต่อไปของแดนหมีขาว กำลังถล่มใส่รัฐฟลอริดา แต่ปรากฏว่าทรัมป์ยังไม่เคยแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เรื่องนี้เลย

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พลเรือเอก ไมเคิล โรเจอร์ส (Michael Rogers) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Agency) และผู้บัญชาการของกองบัญชาการไซเบอร์ของสหรัฐฯ (US Cyber Command) กล่าวระหว่างไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภาว่า ทรัมป์ไม่ได้ให้อำนาจใดๆ แก่เขาในการใช้ปฏิบัติการเพื่อเล่นงานตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ของฝ่ายรัสเซีย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (15 มี.ค.) คณะบริหารทรัมป์ได้ประกาศแซงก์ชั่นชาวรัสเซียและองค์กรหลายแห่งของรัสเซีย จากการที่เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯเมื่อปี 2016 และทำการโจมตีทางไซเบอร์ ทว่าพวกนักวิจารณ์พากันลดทอนน้ำหนักของการแซงก์ชั่นคราวนี้โดยบอกว่ามันน้อยเกินไปและล่าช้าเกินไป


กำลังโหลดความคิดเห็น