xs
xsm
sm
md
lg

โซลมึนตึ้บ!! ‘ทรัมป์’ใช้ทหารอเมริกันในเกาหลีใต้เป็น ‘หมาก’ ต่อรองให้โสมขาวต้องอ่อนข้อด้านการค้าแก่สหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์

<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับ ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ขณะแถลงข่าวร่วมกันในกรุงโซล (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 7 พ.ย. 2017) </i>
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Trump hints troops in South Korea are trade bargaining chip
By Asia Times staff
16/03/2018

“ทรัมป์” พูดเป็นนัยอีกครั้งว่าจะใช้เรื่องการปรากฏตัวทางทหารของสหรัฐฯในเกาหลีใต้ มาเป็นหมากต่อรองเพื่อทำให้โซลยินยอมอ่อนข้อเรื่องการค้าแก่อเมริกา ท่าทีเช่นนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่โสมขาววิ่งวุ่นสอบถามขอความกระจ่าง และพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯก็ต้องพยายามสาละวนจัดทำคำตอบอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้

ถ้อยคำวาจายั่วยุชวนทะเลาะเรื่องการค้ายังคงไหลหลั่งจากประมุขทำเนียบขาวต่อไปอีกในวันพุธ (14 มี.ค.) ที่ผ่านมา เมื่อเขาแบะท่าว่าเขาจะนำเอาเรื่องการคงทหารสหรัฐฯเอาไว้ในเกาหลีใต้ มาเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องการค้าระหว่างสองประเทศ

“เราขาดดุลการค้าพวกเขาเป็นจำนวนมหึมามากทีเดียว แล้วเรายังต้องคอยพิทักษ์คุ้มครองพวกเขาอีก” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอเมริกาโดยตำแหน่งด้วย กล่าวเมื่อวันพุธ (14 มี.ค.) ระหว่างพูดคุยอยู่ในงานระดมหาทุนที่จัดแบบภายในงานหนึ่ง ทั้งนี้ตามบันทึกเสียงการสนทนาซึ่งทางหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้รับมา “ดังนั้น เราทั้งเสียเงินในเรื่องการค้า และเราก็ต้องเสียเงินในเรื่องการทหาร เวลานี้เรามีทหาร 32,000 คนอยู่ตรงชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ขอให้ติดตามกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ในเวลาต่อมา หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานว่า พวกเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้วิ่งวุ่นชุลมุนต่อโทรศัพท์ติดต่อถึงเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯที่รู้จักมักจี่ เพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับคำพูดนี้ของทรัมป์ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.washingtonpost.com/world/national-security/south-koreans-want-to-know-what-trump-really-meant-by-lets-see-what-happens/2018/03/15/96fdb1a4-2880-11e8-b79d-f3d931db7f68_story.html)

มีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวปฏิเสธว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้กำลังแสดงท่าทีว่าจะถอยทหารออกจากเกาหลีใต้หรอก แต่ก็เน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภาคีซึ่งกระเตื้องดีขึ้นกว่าเดิม ยังคงถือเป็นเรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเรื่องหนึ่ง

ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าพวกเจ้าหน้าทีด้านกลาโหมของสหรัฐฯและเหล่านักการทูตอเมริกันเร่งใช้ความพยายามอย่างโกลาหล เพื่อจัดทำคำตอบคำอธิบายแก่สาธารณชนว่าทรัมป์กำลังหมายความว่าอะไรกันแน่ โดยที่มีการสอบถามขอคำแนะนำไปยังทางทำเนียบขาวด้วย

จำได้ไหม ‘ทรัมป์’ เคยขู่ทำนองนี้มาแล้วกรณีระบบ “ทาด”?

อันที่จริงทรัมป์เคยแสดงความคิดเห็นทำนองนี้มาแล้ว หากเราย้อนกลับไปถึงเดือนพฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมา เมื่อตอนที่ประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ข่มขู่ที่จะบีบบังคับให้โซลต้องจ่ายเงินสำหรับการที่สหรัฐฯนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธ “ทาด” (THAAD ซึ่งย่อมาจากTerminal High Altitude Area Defense) ไปติดตั้งในเกาหลีใต้

การนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธนี้ไปติดตั้งประจำการในเกาหลีใต้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพิทักษ์ป้องกันภูมิภาคแถบนี้ของสหรัฐฯ และพวกคณะผู้นำในกรุงโซลต้องจ่ายราคาค่างวดในทางการเมืองไปแล้วอักโขทีเดียวจากการยินยอมให้นำ “ทาด” เข้าไปในแดนโสมขาวท่ามกลางเสียงต่อต้านคัดค้านจากนักการเมืองและประชาชนจำนวนไม่ใช่น้อยๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องการชำระเงินสำหรับระบบป้องกันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการทำความตกลงกันไปเรียบร้อยแล้ว ในเวลานั้น เอช. อาร์ แมคมาสเตอร์ (H R McMaster) ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ยังพยายามที่จะแสดงบทบาทเป็นผู้ทำความกระจ่างสร้างความเข้าใจ ด้วยการปลอบโยงพวกเจ้าหน้าที่ในกรุงโซลให้บังเกิดความมั่นใจว่า คำขู่ของทรัมป์นั้นไม่ได้เป็นนโยบายอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะสามารถผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นหรอก โดยที่รายงานข่าวของบลูมเบิร์กบอกว่า:

ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว 3 ราย ทรัมป์อยู่ในอาการโมโหฉุนเฉียวทีเดียว หลังจากที่ได้อ่านข่าวตีพิมพ์ในวอลล์สตรีทเจอร์นัล ซึ่งระบุว่า แมคมาสเตอร์ได้โทรศัพท์ติดต่อไปถึงที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ เพื่อให้ความมั่นใจว่าคำขู่ของทรัมป์ที่จะให้แดนโสมขาวต้องจ่ายเงินสำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จะนำเข้าไปติดตั้งนั้น ไม่ได้เป็นนโยบายอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่เหล่านี้บอกว่าทรัมป์โทรศัพท์ไปหาและแผดเสียงใส่แมคมาสเตอร์ กล่าวหาเขาว่ากำลังบ่อนทำลายความพยายามในการทำให้เกาหลีใต้ต้องยอมควักเงินจ่ายตามส่วนที่ควรต้องรับภาระอย่างยุติธรรม (ดูเพิ่มเติมได้ที่ ttps://www.bloomberg.com/view/articles/2017-05-08/washington-loves-general-mcmaster-but-trump-doesn-t)

พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหาร ซึ่งรวมถึงตัวแมคมาสเตอร์ ที่มีรายงานข่าวระบุว่ายังคงตกอยู่ในอันตรายอาจจะถูกทรัมป์ไล่ออก เมื่อมาถึงตอนนี้ย่อมจะต้องขบคิดชั่งใจมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวทีเดียว ในการปลอบโยนเน้นย้ำให้พันธมิตรใกล้ชิดของอเมริกาบังเกิดความมั่นใจขึ้นมาใหม่

เวลาเดียวกันนั้น ในกรุงเปียงยาง คิม จองอึน ก็น่าจะกำลังชื่นมื่นกับข้าวโพดคั่วป็อบคอร์น ที่เป็นขนมขบเคี้ยวของโปรดอย่างสบายอารมณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น