เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รัสเซียแถลงในวันอาทิตย์ (11 มี.ค.) ว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธไฮเทคความเร็วพุ่งจี๊ดสุดๆ ระดับเหนือเสียงหลายเท่าตัว หรือไฮเปอร์โซนิก (hypersonic missile) ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิมร์ ปูติน ระบุว่าเป็น “อาวุธในอุดมคติชนิดหนึ่ง” ที่สามารถเจาะผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศได้ทุกระบบ เมื่อตอนที่เขาเปิดเผยอวดโอ่บรรดาอาวุธยุคหน้าของแดนหมีขาวตอนต้นเดือนมีนาคมนี้
ขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงรุ่น “คินชัล (Kinzhal คำรัสเซียคำนี้แปลว่า กริช หรือ Dagger ในภาษาอังกฤษ) นี้ ถูกปล่อยออกมาจากเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นความเร็วเหนือเสียง (supersonic) รุ่น มิก-31 (MiG-31) ซึ่งบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากสนามบินแห่งหนึ่งในเขตทหารภาคใต้ (South Military District) ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย กระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวแถลง
“การปล่อยขีปนาวุธครั้งนี้เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (ไฮเปอร์โซนิก คือ ความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าตัวขึ้นไป) ลูกนี้ ก็สามารถพุ่งเข้าสู่เป้าหมายของมันได้สำเร็จ” คำแถลงของกระทรวงกล่าวต่อ
นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งแสดงให้เห็นตั้งแต่ช่วงที่นักบิน 2 คนกำลังสวมชุดสำหรับขึ้นบิน จากนั้นก็วิ่งไปยังเครื่องบินไอพ่นลำหนึ่งที่มีขีปนาวุธขนาดใหญ่ลูกหนึ่งติดตั้งอยู่ตรงใต้ท้องของเครื่อง
ท่ามกลางเสียงดนตรีประกอบที่เป็นเพลงบรรเลงปลุกใจให้รักชาติ คลิปวิดีโอก็แสดงให้เห็นขีปนาวุธลูกหนึ่งถูกปล่อยออกมาจากเครื่องบินซึ่งกำลังบินอยู่กลางเวหา และแล่นทะยานตัดท้องฟ้าอันดำมืด โดยทิ้งกลุ่มควันสีขาวเป็นทางยาวเอาไว้เบื้องหลังตามเส้นทางที่มันวิ่งผ่าน
ขีปนาวุธ “คินชัล” เป็นหนึ่งในอาวุธรุ่นใหม่ๆ จำนวนหนึ่งซึ่งปูตินนำเอามาเปิดเผย ในระหว่างการกล่าวปราศรัยแถลงผลงานและนโยบายประจำปีเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้ารัสเซียจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ซึ่งได้มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อรับประกันว่าเขาจะต้องเป็นผู้ชนะ
ปูตินพูดในตอนนั้นว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็ว 10 เท่าตัวของความเร็วเสียง และสามารถเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ได้
เขาระบุด้วยว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้ได้นำเข้าประจำการในเขตทหารภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมปีที่แล้ว
ทางด้านรองนายกรัฐมนตรี ดมิตริ โรโกซิน (Dmitry Rogozin) ของรัสเซีย เขียนเอาไว้บนเฟซบุ๊กว่า เครื่องบินขับไล่ซูเปอร์โซนิกรุ่น มิก-31 ที่จะใช้ในการบรรทุกขีปนาวุธรุ่นนี้ ก็ได้ผ่านการปรับปรุงยกระดับให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเป็นพิเศษด้วยเช่นเดียวกัน
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียสำทับเอาไว้ในคำแถลงว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้เป็นต้นว่า เครื่องบินนี้ได้ออกบินเป็นจำนวนมากกว่า 250 เที่ยวบินแล้ว เพื่อการปรับปรุงระบบขีปนาวุธนี้ให้มีความสมบูรณ์ที่สุด
