รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งเงินรางวัลนำจับ 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 157 ล้านบาท) สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสล่าตัว มุลเลาะห์ ฟัซลุลเลาะห์ ผู้นำตอลิบานปากีสถาน ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุดักยิงศีรษะ มาลาลา ยูซาฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2014
สหรัฐฯ ยังตั้งเงินรางวัลอีก 3 ล้านดอลลาร์ (ราว 94 ล้านบาท) สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสแหล่งกบดานของ อับดุลวาลี หัวหน้ากลุ่มก่อความไม่สงบเครือข่ายตอลิบานปากีสถาน และ มันกัล บาค แกนนำกลุ่มติดอาวุธซึ่งเคยโจมตีรถขนเสบียงของนาโต
ประกาศจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้น หลังจาก ทามินา จันจูอา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ได้เข้าพบและหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในประเด็นการก่อต้านก่อการร้าย รวมถึงยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงครามอัฟกานิสถาน
วอชิงตันและคาบูลต่างกล่าวหารัฐบาลปากีสถานว่าให้ที่พักพิงแก่นักรบอัฟกันตอลิบานและเครือข่ายฮักกอนี ซึ่งอิสลามาบัดยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอด พร้อมโต้กลับว่าพวกตอลิบานปากีสถานก็เข้าไปอาศัยกบดานอยู่ในอัฟกานิสถานเช่นกัน
ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งเมื่อเดือน ม.ค. ให้ระงับความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ปากีสถานมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่ารัฐบาลอิสลามบัดล้มเหลวในการปราบปรามกลุ่มอัฟกันตอลิบานและเครือข่ายฮักกอนี
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า สาเหตุที่ตั้งรางวัลนำจับแกนนำกลุ่มติดอาวุธทั้ง 3 รายเป็นเพราะว่าพวกเขาก่อภัยคุกคามให้แก่ปากีสถาน รวมถึงกองกำลังพันธมิตรสหรัฐฯ ซึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ในอัฟกานิสถาน
ตอลิบานปากีสถานซึ่งมีชื่อภาษาอูรดูว่า “เตห์ริก-เอ-ตอลิบาน ปากีสถาน” หรือ TTP เคยขู่จะโจมตีเป้าหมายในสหรัฐฯ และยังอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุลอบวางระเบิดจัตุรัสไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 2010
ผลงานของนักรบกลุ่มนี้ยังรวมไปถึงความพยายามลอบสังหาร มาลาลา ยูซาฟไซ เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2012 เพราะไม่พอใจที่ มาลาลา ซึ่งอายุเพียง 11 ขวบในเวลานั้นออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของเด็กผู้หญิงในการศึกษาเล่าเรียน
มาลาลา ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2014 ร่วมกับนักเคลื่อนไหวชาวอินเดีย ไกลาส สัตยาธีร์
อับดุลวาลี เป็นแกนนำกลุ่มติดอาวุธ “ญามาอะตุลอะห์รอร์” หรือ JUA ซึ่งสังหารพลเรือน ผู้นับถือศาสนากลุ่มน้อย ทหาร และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2016 ก็ได้ฆ่าลูกจ้างท้องถิ่นประจำสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเปชวาร์ไปอีก 2 คน
ในส่วนของ มันกัล บาค นั้นเป็นผู้นำกลุ่ม “ลัชการ์ อี อิสลาม” ซึ่งพัวพันการค้ายาเสพติด ขนของเถื่อน และรีดไถส่วยจากผู้ที่ทำการค้าระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถาน นักรบกลุ่มนี้ยังเคยโจมตีขบวนรถขนเสบียงของนาโตซึ่งวิ่งในเส้นทางระหว่างอัฟกานิสถานกับเมืองท่าการาจีในปากีสถาน