เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ผู้อ่านชายหนังสือพิมพ์การเมืองปีกซ้ายแดนน้ำหอม ลิเบอเรชัน(Liberation) ต้องจ่ายเพิ่ม 50 เซนต์สำหรับฉบับวันพฤหัสบดี(8 มี.ค) เพื่อแสดงให้เห็นถึงปัญหาค่าจ้างที่ต่างกันระหว่างเพศเนื่องในโอกาสวันสตรีสากลที่มีขึ้นในวันนี้(8 มี.ค)
เอเอฟพีรายงานวันนี้(8 มี.ค) ในฉบับที่วางแผนวันพฤหัสบดี(8) ทางหนังสือพิมพ์ ลิเบอเรชัน (Liberation) ของฝรั่งเศสได้วางแผงใน 2 ปกที่แตกต่างกัน โดยพบว่าในเวอร์ชันแรกได้มีการเขียนว่า “สำหรับผู้หญิง ราคา 2 ยูโร” ซึ่งเป็นราคาตามปกติ แต่ทว่าในเวอร์ชันที่ 2 มีการระบุว่า “สำหรับผู้ชาย ราคา 2.50 ยูโร” พร้อมกับภาพกราฟิกแสดงสัญลักษณ์รูปภาพผู้ชายกำกับ
ทั้งนี้ในส่วนปกหน้าของหนังสือพิมพ์การเมืองปีกซ้ายฝรั่งเศส ได้มีการแจกแจงให้เห็นความสำคัญของปัญหาค่าแรงที่แตกต่างระหว่างเพศ โดยกล่าวว่า ถึงแม้ปัญหาความเท่าเทียมของค่าแรงในตำแหน่งงานเดียวกันจะถูกกำหนดในกฎหมายตั้งแต่ปี 1972 แต่ทว่ายังเป็นปรากฎการณ์ว่า สตรีฝรั่งเศสยังคงได้รับค่าแรงเฉลี่ย 25.7% ต่ำกว่าผู้ชายฝรั่งเศส อ้างอิงจากรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์ความไม่เท่าเทียมในค่าจ้างเมื่อปีที่ผ่านมา
“และเพื่อต้องการให้เห็นถึงปัญหาความไม่ยุติธรรม ทางลิเบอเรชันตัดสินใจแสดงให้เห็นถึงความเหมือนในความแตกต่างด้วยการกำหนดราคาพิเศษสำหรับวันนี้ ที่ผู้อ่านเพศชายต้องจ่ายเพิ่ม 50 เซนต์” และในแถลงการณ์ยังระบุว่า กำไรที่ได้จะถูกนำไปบริจาคให้หน่วยงานจับตาด้านความเท่าเทียมด้านเงินเดือน ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรของฝรั่งเศส อีควอลิตี ออบเซิร์ฟวาทอรี(Equality Observatory)
ทั้งนี้ก่อนหน้าในวันพุธ(7) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอดัวร์ ฟีลิป (Édouard Philippe)ออกมาประกาศจะจัดการกับบริษัทที่จ่ายค่าแรงพนักงานหญิงน้อยกว่าพนักงานชาย
ซึ่งภายใต้แผนปฎิรูปที่ทำงานซึ่งจะมีการสรุปร่างสุดท้ายในเดือนหน้าที่รัฐสภาที่มีการกำหนดให้โปรแกรมซอฟต์แวร์สำหรับการตรวจสอบความไม่เท่าเทียมกันด้านค่าจ้างจะถูกนำไปติดตั้งภายในบริษัททั้งหมดทั่วฝรั่งเศสที่มีพนักงานไม่ต่ำกว่า 250 คน โดยจะเริ่มในปี 2019 และสำหรับบริษัทที่มีพนักงานไม่ต่ำกว่า 50 คนจะเริ่มตั้งแต่ปี 2022
รอยเตอร์รายงานว่า โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ว่านี้จะต่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบการจ่ายเงินเดือนของบริษัทเพื่อตรวจสอบการจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้กับพนักงานว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
ฟีลิปชี้ว่า บริษัทที่ไม่ปฎิบัติตามจะได้รับระยะเวลา 3 ปีเพื่อแก้ไข หรือไม่ทางบริษัทต้องเผชิญต่อค่าปรับที่สูงถึง 1% ของค่าจ้างที่บริษัทต้องจ่าย