เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ล่าสุดเพนตากอนออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มก่อการร้าย IS ถึงความไร้ศีลธรรมจรรยา หลังได้เผยแพร่วิดีโอคลิปเหตุการณ์ทหารหน่วยรบพิเศษกรีนเบเร่ต์ในไนเจอร์ถูกซุ่มโจมตีเมื่อตุลาฯปีก่อน มีช็อตทหารสวมหมวกติดกล้องถูกยิงเสียชีวิต แฉให้เห็นถึงสหรัฐฯส่งกำลังรบพิเศษเข้าพื้นที่แต่ไม่ให้อาวุธป้องกันเต็มรูปแบบ ด้านพลเอก โทมัส วาลด์เฮาเซอร์(General Thomas Waldhauser)ผู้บัญการกองกำลังรบสหรัฐฯประจำแอฟริกา AFRICOM ชี้ ทำเนียบขาวยังไม่อนุมัติเบี้ยเสี่ยงภัยให้กับกองกำลังในไนเจอร์
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานเมื่อวานนี้(6 มี.ค)ว่า กลุ่มก่อการร้าย IS เผยแพร่วิดีโอคลิปแสดงเหตุการณ์ซุ่มโจมตีกองกำลังสหรัฐฯในไนเจอร์เมื่อเดือนตุลาคม 2017 และนำมาสู่การเสียชีวิตของทหารรบพิเศษกรีนเบเร่ต์ 4 นาย ซึ่งการเปิดเผยทำให้ในวันจันทร์(5) มีคำถามเกิดขึ้นถึงปฎิบัติการพิเศษที่นายทหารหน่วยนี้ถูกส่งไป และเหตุใดทหารรบพิเศษเหล่านี้จึงถูกทิ้งให้ตกเป็นเป้านิ่งอย่างช่วยตนเองไม่ได้
การซุ่มโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ต.ค ซึ่งมีหน่วยทหารรบพิเศษสหรัฐฯจำนวน 12 นาย และกองกำลังทหารไนเจอร์ 30 นายกำลังอยู่ในการเดินทางกลับออกมาจากหมู่บ้านตองโก ตองโก(Tongo Tongo) ติดพรมแดนมาลี ถูกกองกำลังกลุ่มก่อการร้าย IS จำนวน 50 คนพร้อมอาวุธซุ่มโจมตี
ซึ่งตามรายงานพบว่า สมาชิก IS มาพร้อมกับอาวุธเบา ระเบิดแบบขว้าง และรถปิกอัพที่มีปืนกลติดตั้ง
ความสูญเสียสำหรับในส่วนสหรัฐฯเป็นนายทหารหน่วยกรีนเบเร่ต์คือ สิบเอก ลา เดวิด จอห์นสัน (Sgt. La David Johnson) วัย 25 ปี จ่าสิบตรี ไบรอัน แบล็ก (Bryan Black) วัย 35 ปี จ่าสิบตรี เจเรมิอาห์ จอห์นสัน (Jeremiah Johnson) วัย 39 ปี และจ่าสิบตรี ดัสติน ไรท์ (Dustin Wright) วัย 29 ปี ในขณะที่ทหารไนเจอร์เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 นาย
วิดีโอคลิปที่มีภาพความรุนแรงถูกเผยแพร่ออกมาจากสำนักข่าวที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายวันอาทิตย์(4)อ้างอิงจากสื่อรัสเซีย RT ซึ่งมีฉากความรุนแรงที่ได้มาจากกล้องติดบนหมวกของนายทหารสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความโกลาหลในเวลานั้น และภาพนายทหารที่สวมหมวกติดกล้องถูกยิงเสียชีวิต และนักรบ IS ยิงผ่านร่างของเขาไป
สื่อรัสเซียชี้ว่า วิดีโอคลิปที่ปรากฎแสดงถึงการเสียชีวิตของทหารสหรัฐฯ 2 นาย และการโจมตี
ซึ่งในแถลงการณ์ประณามของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯที่ออกมามีใจความว่า
“เพนตากอนรับรู้ถึงภาพและวิดีโอคลิปชวนเชื่อที่ออกมาจากกลุ่ม IS ในเหตุการณ์ซุ่มโจมตีกองกำลังในไนเจอร์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2017 และการออกมาเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการไร้ศีลธรรมจรรยาของข้าศึกที่เรากำลังรบด้วย”
อย่างไรก็ตาม RT ชี้ว่า เพนตากอนออกแถลงการณ์ประณาม แต่ปฎิเสธที่จะยืนยันถึงความถูกต้องของวิดีโอคลิปที่ว่าเป็นของจริงหรือไม่
อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า วิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่มีความยาว 9 นาที รวมไปถึงภาพของผู้นำกลุ่ม อาบู บาการ์ อัล บักห์ดาดี และภาพของรถปิกอัพที่วิ่งไปตามพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีธงสัญลักษณ์กลุ่มก่อการร้าย IS ติดอยู่ ในขณะที่อีกคันมีนักรบ IS อยู่เต็มคัน
ปฎิบัติการของกำลังรบกรีนเบเร่ต์ในเวลานั้นนั้นตามหลักการแล้ว ต้องเป็นปฎิบัติการลาดตระเวนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่สิ่งที่ได้เห็นจากวิดีโอคลิป กลับแสดงให้เห็นว่านายทหารสหรัฐฯเหล่านี้มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถปกป้องชีวิตพวกเขาจากการถูกโจมตีได้
โดยในวิดีโอคลิปชี้ว่า ทหารอเมริกันเหล่านี้ที่สวมชุดเกราะป้องกันแบบบางพยายามที่ตะเกียกตะกายหาที่กำบังตัวจากรถ SUV ที่ไม่หุ้มเกราะกันกระสุนจากฝ่ายตรงข้าม
และมีบางช่วงพบว่า กองกำลังสหรัฐฯใช้ระเบิดควันสีแดงเพื่อหวังปิดกั้นการมองเห็นจากข้าศึก แต่ในวิดีโอคลิปแสดงให้เห็นว่า เป็นยุทธวิธีที่ไม่ได้ผล รวมไปถึงฉากที่ทหารสหรัฐฯนายหนึ่งถูกยิง และมีเพื่อนนายทหารพยายามเข้าไปลากตัวเพื่อหลบกำบังหลังรถ แต่เป็นเพราะรถคันนี้กระสุนสามารถเจาะผ่านได้ ทำให้ ทหารสหรัฐฯต้องตัดสินใจทิ้งที่กำบัง และหนีออกไปเพื่อหาที่หลบภัยที่อื่น
ซึ่งสื่อกาตาร์ชี้ว่า แต่ทว่าในจุดนั้น ไม่มีที่ใดที่ทางหน่วยรบจะสามารถหลบพ้นได้
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันจันทร์(5) 1 วันหลังวิดีโอคลิปถูกเผยแพร่รวมไปถึง ความล้มเหลวของการข่าวสหรัฐฯที่นำไปสู่การถูกซุ่มโจมตีครั้งใหญ่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างใด และมีส่วนใดที่ผิดพลาด และที่สำคัญ เหตุใดกองกำลังรบพิเศษสหรัฐฯจึงไม่ได้รับกำลังสนับสนุนทันที หรือได้รับกำลังเสริมทางอากาศ ซึ่งตามรายงานชี้ว่า พวกเขาต้องรอนานมาก และเป็นกองกำลังทหารฝรั่งเศสที่เข้ามาช่วยเหลือนำทหารที่บาดเจ็บออกไปทางอากาศ อ้างอิงจาก CNN
ในการขึ้นให้ข้อมูลต่อรัฐสภาสหรัฐฯในวันอังคาร(6) พลเอก โทมัส วาลด์เฮาเซอร์(General Thomas Waldhauser)ผู้บัญการกองกำลังรบสหรัฐฯในแอฟริกา AFRICOM กล่าวว่า ในขณะนี้รายงานการสอบสวนยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณา และจะเปิดเผยออกมาในภายหลังต่อรัฐสภาสหรัฐฯ หลังจากครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตรับทราบแล้ว สื่อรัสเซียรายงาน
อัลญะซีเราะฮ์ชี้ว่า ทั้งนี้พบว่าผู้สอบสวนของทางเพนตากอนได้เสร็จสิ้นการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว และในเวลานี้รายงานอย่างเป็นทางการกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบจากรัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมททิส
ซึ่งในการตอบคำถามของพลเอกวาลด์เฮาเซอร์ ที่ว่าเหตุใดกองกำลังสหรัฐฯทั่วทั้งทวีปแอฟริกาจึงถูกทำให้ตกอยู่ในอันตราย ผู้นำกองกำลัง AFRICOM กล่าวตอบว่า เป็นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การป้องกันที่มีเป้าหมาย "เพื่อควบคุม องค์กรสุดโต่งรุนแรง เป็นต้นว่า IS อัลกออิดะห์ โบโกฮารัม และอัล-ชาบับ"
“พวกเขาเข้าแทรกซึมทั่วทั้งทวีปในพื้นที่ซึ่งแตกต่างกันออกไป” และต้องการที่จะออกปฎิบัติการในยุโรป และสหรัฐฯ พลเอกวาลด์เฮาเซอร์กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาคองเกรส และเสริมต่อว่า “ทางเราพยายามที่จะป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้เกิดขึ้น” RT รายงาน
ทั้งนี้ในรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเมื่อวานนี้(6) พลเอกวาลด์เฮาเซอร์กล่าวว่า***ทำเนียบขาวยังไม่อนุมัติค่าตอบแทนเสี่ยงภัยในสมรภูมิรบอันตรายให้กับกองกำลังที่ถูกส่งไปยังแอฟริกาตะวันตก ซึ่งรวมไปถึงไนเจอร์***
รายงานของนิวยอร์กไทม์สชี้ว่า ในเบื้องต้นทหารหน่วยรบพิเศษทีมนี้ถูกสั่งให้ออกไปทำการลาดตระวนตามปกติเพื่อพบกับหัวหน้าชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ แต่ทว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เมื่อทางหน่วยได้รับคำสั่งใหม่ให้ไปเป็นกำลังเสริมในอีกปฎิบัติการที่มีเป้าหมายไปที่หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายที่เชื่อว่า มีส่วนในการที่พลเมืองสหรัฐฯถูกลักพาตัว
ซึ่งมาถึงในเวลานี้ยังเป็นที่คลุมเคลือว่าใครเป็นผู้ออกคำสั่งเปลี่ยนแผนปฎิบัติการ แต่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ในภูมิภาคให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์สหรัฐฯว่า คำสั่งเปลี่ยนแปลงปฎิบัติการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากบรรดาผู้บัญชาการระดับสูง
ที่ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากยศพันตรีในเมืองหลวงไนเจอร์ ยศพันโทในชาด ผู้บัญชาการกองกำลังปฎิบัติการที่มีฐานอยู่ในเยอรมัน และอาจเป็นไปได้ที่จะรวมไปถึงนายพลระดับ 2 ดาวที่เป็นผู้ควบคุมในภาพกว้างของปฎิบัติการพิเศษทั้งหมดในแอฟริกา และมาจากเยอรมันซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการ AFRICOM
แหล่งข่าวภายในเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การที่ทางเพนตากอนยังไม่เปิดเผยผลการสอบสวนเนื่องจากไม่ต้องการให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาคองเกรสถามไปถึงเหตุการณ์ซุ่มโจมตีในไนเจอร์ ระหว่างที่ผู้บัญชาการกองกำลังรบสหรัฐฯในแอฟริกาเข้าให้ข้อมูลในวันอังคาร(6)