เอเอฟพี – ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนในวันนี้ (7) ว่า สงครามการค้าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯต้องการก่อด้วยการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจะฉุดรั้งการเติบโตทั่วโลก
“หากการค้าระหว่างประเทศถูกทำให้เกิดความคลางแคลงด้วยมาตรการประเภทนี้ มันจะกลายเป็นช่องทางแพร่กระจายความตกต่ำด้านการเติบโตและการค้า และมันจะน่าหวาดหวั่น” คริสตีน ลาร์การ์ด กล่าวกับสถานีวิทยุอาร์ทีแอล
“ในสงครามการค้าที่โจมตีกันด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรนั้น ไม่มีผู้ชนะ” เธอกล่าวเสริม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์โอ้อวดในทวิตเตอร์ว่า สงครามการค้านั้น “เอาชนะได้ไม่ยาก” หลังจากการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าอลูมิเนียมสู่สหรัฐฯ 10 เปอร์เซ็นต์และภาษีนำเข้าเหล็ก 25 เปอร์เซ็นต์ก่อให้เกิดเสียงบ่นอื้ออึงทั่วโลก
พันธมิตรของสหรัฐฯขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯที่เข้าสู่ตลาดของพวกเขา สหภาพยุโรปคาดว่าจะชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้ในวันพุธ (7)
“เราเป็นกังวลว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ถูกชักนำ เรากำลังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายบรรลุข้อตกลง จัดการเจรจา และปรึกษาหารือกัน” ลาร์การ์ด กล่าว
ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เธอเข้าใจความไม่พอใจในระบบการค้าโลกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระดับหนึ่ง
ทรัมป์มีเหตุผลเพียงพอในการประท้วงสถานการณ์ปัจจุบัน มีหลายประเทศที่ไม่ค่อยจะเคารพข้อตกลง WTO ซึ่งมีข้อกำหนดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งเรามักคิดถึงจีน แต่จีนไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น” ลาร์การ์ด กล่าว
คณะบริหารของทรัมป์ทำให้องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นเป้าหมายหลักของนโยบาย “อเมริกาเฟิร์สต์” และขู่ว่าจะถอนสหรัฐฯออกจากหน่วยงานทางการค้านี้ที่ พวกเขาระบุว่า กำลังขัดขวางความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ