รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯและนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลจัดการพูดคุยกันในวันนี้ (5) ซึ่งเป็นโอกาสในการผนึกแนวร่วมต่อต้านอิหร่าน แต่คาดว่าคงจะไม่ได้สร้างความคืบหน้ใดๆ ให้กับกระบวนการสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์
เนทันยาฮูซึ่งกำลังติดหล่มการสอบสวนคอร์รัปชั่นที่คุกคามความอยู่รอดทางการเมืองของเขา และถูกตำรวจสอบปากคำที่บ้านของเขาเองเมื่อวันศุกร์ (2) จะกลายเป็นที่จับตามองอีกครั้งในระหว่างการเยือนสหรัฐฯนาน 5 วันนี้
ความพยายามของทรัมป์ที่จะแก้ไขหรือยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างอิหร่านและชาตมหาอำนาจและความกังวลเกี่ยวกับฐานที่มั่นของเตหะรานในซีเรียคากว่าจะเป็นหัวข้อหลักในการพูดคุยของเขากับเนทันยาฮู เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอิสราเอล กล่าว
ผู้นำทั้งสองวิจารณ์ข้อตกลงนี้มาโดยตลอด โดยอ้างถึง ระยะเวลาที่จำกัดของมันและความจริงที่ว่ามันไม่ได้ครอบคลุมโครงการขีปนาวุธของอิหร่านหรือการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านอิสราเอลในภูมิภาค
ทรัมป์ขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงหากพันธมิตรยุโรปไม่ช่วยแก้ไขข้อตกลง เจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่า เนทันยาฮูและทรัมป์น่าจะคุยกันเกี่ยวกับหนทางทำให้ยูโรปยอมจำนนในเรื่องนี้
“ผมต้องการหารือหลายประเด็นกับทรัมป์ แต่เรื่องอิหร่านสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความก้าวร้าวของพวกเขา ความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ และการรุกรานในตะวันออกกลาง รวมถึงตามแนวชายแดนของเรา” เนทันยาฮู บอกกับผู้สื่อข่าว ระหว่างเดินทางออกจากอิสราเอล
อิสราเอลกล่าวหาเตหะรานว่าพยายามสร้างฐานที่มั่นถาวรในซีเรียซึ่งกองกำลังที่อิหร่านหนุนหลังสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในสงครามกลางเมือง
เนทันยาฮูยังเตือนด้วยว่า อิสราเอลอาจโจมตีอิหร่านโดยตรงหลังจากโดรนของอิหร่านบินเข้าสู่อิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วและเครื่องบินขับไล่ของอิสราเอลถูกยิงตกในขณะทิ้งระเบิดใส่ระบบป้องกันภัยทางอากาศในซีเรีย เขากล่าวหาว่าอิหร่านกำลังวางแผนสร้างโรงงานขีปนาวุธนำวิถีในเลบานอน ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดน
“เราต้องการรู้และเราต้องรู้ว่าจุดยืนของสหรัฐฯคืออะไรหากเราเข้าสู่การเผชิญหน้ากับอิหร่านมากกว่านี้สักวันหนึ่ง” ไมเคิล โอเร็น รัฐมนตรีช่วยว่าการคณะรัฐมนตรีอิสราเอลและอดีตเอกอัครราชทูตประจำวอชิงตัน กล่าวเมื่อวานนี้ (4) ในช่อง Channel 13 TV ของอิสราเอล
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เรียกร้องให้อิหร่านถอนทหารและกลุ่มติดอาวุธออกจากซีเรีย แต่เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่มีอิทธิพลในซีเรีย มันจึงไม่แน่ชัดว่าวอชิงตันจะใช้วิธีการใดเพื่อคลายความกังวลของอิสราเอล
ทรัมป์และเนทันยาฮูยังจะคุยกันเรื่องความพยายามของ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ที่จะพัฒนาข้อเสนอสันติภาพอิสราเอล-ปาเสไตน์ ซึ่งทรัมป์ระบุว่า อาจกลายเป็น “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ”
อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวไร้ความคืบหน้านับตั้งแต่ทรัมป์รับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในเดือนธันวาคมและการประกาศย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปยังเมืองนี้ในเดือนพฤษภาคม ไม่นานหลังจากวันครบรอบ 70 ปีของอิสราเอล
