xs
xsm
sm
md
lg

เมินเสียงด่า! “อัสซาด” สั่งกองทัพเดินหน้าถล่มรังกบฏใกล้เมืองหลวงซีเรีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่กรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 4 มี.ค.
เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ประกาศวานนี้ (4 มี.ค.) ว่าปฏิบัติการโจมตีเขตกูตาตะวันออก (Eastern Ghouta) เพื่อทวงคืนพื้นที่จากฝ่ายกบฏยังต้องเดินหน้าต่อไป ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้ยุติเหตุนองเลือดที่คร่าชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไปแล้วหลายร้อยศพ

ผู้สังเกตการณ์สงครามรายงานว่า การยิงถล่มอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้กองทัพรัฐบาลซีเรียยึดพื้นที่กูตาตะวันออกได้แล้วเกินกว่า 1 ใน 4

สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสพยายามกดดันให้ดามัสกัสและรัสเซียออกคำสั่งหยุดยิง ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นเร่งด่วนไปให้ถึงมือประชาชนในกูตาตะวันออก

“ผู้คนส่วนใหญ่ในกูตาตะวันออกต้องการหนีให้พ้นจากพวกผู้ก่อการร้าย ปฏิบัติการครั้งนี้จึงต้องดำเนินต่อไป” อัสซาด ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์

รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่คอยโอบอุ้ม อัสซาด ได้ประกาศหยุดยิงวันละ 5 ชั่วโมงในกูตาตะวันออกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ถึงแม้การโจมตีทางอากาศจะสงบลง แต่การสู้รบภาคพื้นดินกลับหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น

อัสซาด ยืนยันว่าพลเรือน “มีช่องทาง” ที่จะหลบหนีออกจากเขตอิทธิพลของกบฏได้ พร้อมปฏิเสธความย้อนแย้งระหว่างคำสั่งหยุดยิงกับการสู้รบที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่

ถ้อยแถลงของผู้นำซีเรียมีขึ้น หลังจากที่ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียรายงานว่า เครื่องบินฝ่ายอัสซาดได้ทิ้งระเบิดใส่ย่านกูตาตะวันออกเมื่อวานนี้ (4) จนทำให้พลเรือนเสียชีวิตถึง 34 คน รวมเด็ก 11 คน

ศูนย์สังเกตการณ์ฯ ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอนระบุด้วยว่า กองทัพซีเรียทวงคืนพื้นที่ได้แล้วประมาณร้อยละ 25 และได้รุกคืบจนอยู่ห่างจากดูมา (Douma) ซึ่งเป็นเมืองหลักของเขตกูตาเพียง 3 กิโลเมตร

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ รวมถึงการยิงจรวดและปืนใหญ่ในช่วง 15 วันที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตชาวบ้านในกูตาตะวันออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 650 คน และทำให้พลเมืองอีกหลายร้อยชีวิตต้องหนีตายไปยังฝั่งตะวันตก

สหรัฐฯ ออกมาแถลงประณามเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4) พร้อมกล่าวหารัสเซียว่าเพิกเฉยต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งสั่งให้มีการหยุดยิงในกูตาตะวันออกเป็นเวลา 30 วัน

วอชิงตันระบุด้วยว่า รัสเซีย “ใช้ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายมาเป็นข้ออ้างสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์”

ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ได้ร่วมกันประณามรัสเซียและซีเรียว่าจะต้องรับผิดชอบต่อ “ความทุกข์ทรมานอันน่าสลดใจของผู้คน” ในกูตาตะวันออก

ประชาชนราว 400,000 คนในกูตาตะวันออกซึ่งถูกฝ่ายรัฐบาลปิดล้อมมาตั้งแต่ปี 2013 ต้องตกเป็นเหยื่อการโจมตีที่ดุเดือดทารุณที่สุดในสงครามกลางเมืองซีเรีย อีกทั้งยังเผชิญวิกฤตขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค

แม้จะไม่มีการหยุดยิง 30 วันตามที่ยูเอ็นเรียกร้อง แต่คำสั่งหยุดยิงเพียงวันละ 5 ชั่วโมงที่มอสโกประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ช่วยให้การสู้รบสงบลงบ้าง และเพิ่มความหวังที่จะส่งความช่วยเหลือหรืออพยพพลเมืองออกจากกูตาตะวันออก

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ได้อนุมัติความช่วยเหลือให้แก่ชาวซีเรียในกูตาตะวันออกรวมทั้งสิ้น 70,000 คน โดยยืนยันว่าขบวนรถบรรทุก 46 คันจะนำอาหารและอุปกรณ์ด้านสาธารณสุขและโภชนาการเข้าไปส่งให้ถึงมือประชาชน 27,500 คนภายในวันนี้ (5) และจะมีการส่งเข้าไปเพิ่มเติมอีก

รัสเซียได้เปิดระเบียงมนุษยธรรมให้ประชาชนที่ไม่ใช่นักรบสามารถเดินทางออกจากูตาตะวันออกได้ในช่วงที่มีการหยุดยิง แต่ศูนย์สังเกตการณ์ฯ ยืนยันว่า ไม่มีพลเรือนหลบหนีออกมาเลยตั้งแต่คำสั่งหยุดยิงรายวันเริ่มบังคับใช้เมื่อวันอังคารที่แล้ว (27 ก.พ.)

ทั้งดามัสกัสและมอสโกกล่าวโทษฝ่ายกบฏว่าข่มขู่พลเรือนจนพวกเขาไม่กล้าอพยพ


กำลังโหลดความคิดเห็น