เอเอฟพี – ล่าสุดพบนิตยสารวาติกัน “สตรี ศาสนจักร และโลก” ฉบับเดือนมีนาคม ออกมาประณามศาสนจักรคาทอลิก ที่มีพฤติกรรมการใช้แรงงานฟรีจากกลุ่มแม่ชี ทั้งกวาดถู ทำความสะอาด ประกอบอาหาร และรับใช้เหล่าคณะคาร์ดินัล และบิชอป
เอเอฟพีรายงานวันนี้(2 มี.ค)ว่า ในบทความที่ลงในนิตยสารทางการบับรายเดือนของวาติกัน “สตรี ศาสนจักร และโลก” (Women, Church, World) ได้แสดงให้เห็นถึงการถูกเอาเปรียบของกลุ่มแม่ชี ที่ถูกศาสนจักรใช้แรงงานในการหุงหาอาหาร ทำความสะอาด และการต้องรอรับใช้ที่โต๊ะอาหารของเหล่าพระคาดินัล บิชอป และกลุ่มบาทหลวง
ภายในบทความมีการออกมาให้ความเห็นของกลุ่มแม่ชีที่ไม่เปิดเผยชื่อ ได้บรรยายถึงสภาพความยากลำบากของการทำงานภายในที่พักของบรรดาพระในศานจักร ที่ต้องทำงานตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อประกอบอาหารเช้า และสามารถเข้านอนได้ก็ต่อเมื่ออาหารค่ำได้ถูกยกไปตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว และภายในที่พักของบรรดาคณะพระคาร์ดินัล บิชอป และบาทหลวงนั้นมีความเรียบร้อย ที่รวมไปถึงการซักรีด
แต่ทว่าในทางกลับกัน ค่าตอบแทนสำหรับการรับใช้นั้น บรรดาแม่ชีต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่แน่นอนและมักจะน้อยเสมอ”
ซึ่งในหลายกรณี วารสารวาติกันชี้ว่า บรรดาแม่ชีทั้งหลายที่ประกาศตัวต้องอยู่กับความยากจน ไม่ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนเลย เป็นเพราะคนเหล่านี้สังกัดอยู่ในคณะนักบวชสตรี และถูกส่งไปยังที่พักของบรรดาเจ้าหน้าที่ชายซึ่งเป็นพระ ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ต้องปฎิบัติเพื่อการรับใช้
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เอเอฟพีชี้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จากแต่เดิมกลุ่มแม่ชีที่ถูกส่งมารับใช้พระนั้นมาจากแม่ชีภายในประเทศ แต่ทว่าพบว่าไม่นานมานี้ มีการนำเข้ามาจากทวีปแอฟริกา เอเชีย และพื้นที่อื่นๆของประเทศกำลังพัฒนาแทน
ซึ่งหนึ่งในแหล่งข่าวแม่ชีเปิดเผยกับทางนิตยสารสตรี ศาสนจักร และโลกว่า เธอรู้จักซิสเตอร์รายหนึ่งที่มีดีกรีถึงระดับปริญญาเอกด้านเทววิทยา (Theology) หรือสาขาใกล้เคียง ถูกส่งตัวมาเป็นผู้รับใช้ในที่พักของพระโดยไม่ให้เหตุผล ซึ่งงานที่ซิสเตอร์รายนี้ถูกส่งไปทำไม่ได้สอดคล้องไปกับความสามารถทางการศึกษาที่เธอมี แหล่งข่าวกล่าว
ในบทความยังระบุว่า ประสบการณ์การอุทิศตัวของเหล่าแม่ชีซึ่งเป็นแรงงานฟรีเหล่านี้ อาจถูกทำให้กลายเป็นผลประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อทางศาสนจักรโดยรวม หากว่าบรรดาคณะผู้บริหารระดับสูงซึ่งเป็นชายทั้งหลาย จะมองเห็นว่า “นี่ถือเป็นโอกาสแท้จริงต่อการตรวจสอบอำนาจภายในศานจักร”
เอเอฟพีชี้ว่า นิตยสารวาติกัน ซึ่งเป็นการออกแบบรายเดือนพร้อมกับหนังสือพิมพ์วาติกันฉบับรายวัน “Osservatore Romano” มีผู้เขียนเป็นนักข่าวสตรี และกลุ่มนักวิชาการ ซึ่งฉบับเดือนมีนาคมนี้ ทางนิตยสารได้อุทิศให้กับหัวข้อ “สตรีและการทำงาน”
เอเอฟพีรายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงต่างจากอดีตผู้นำโฮลีซี(Holy See)พระองค์อื่นๆ พบว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ในเรือนรับรองแขกอย่างเป็นทางการของวาติกัน ซึ่งมีการจัดการคล้ายกับโรงแรม และพนักงานที่นั่นได้รับเงินเดือนค่าตอบแทน ในขณะที่อดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงมีคณะผู้ดูแลที่ประทับเป็นแม่ชี 8 คนจากคณะเมโมเรซ ดอมินี(Memores Domini)
ส่วนอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ทรงมีคณะแม่ชีชาวโปแลนด์ 5 คนให้การดูแลที่ประทับ