เอเอฟพี - รัฐนิวยอร์กขีดเส้นตาย 3 แบงก์แจงความสัมพันธ์ทางการเงินกับอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจาเร็ด คุชเนอร์ ขณะที่นิวยอร์กไทมส์แฉว่า ลูกเขยคนดีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ ได้เงินกู้ก้อนโตหลังนัดพบผู้บริหาร 2 สถาบันการเงินใหญ่ในทำเนียบขาว
แหล่งข่าวคนหนึ่งเปิดเผยเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มาเรีย วัลโล ผู้อำนวยการแผนกบริการทางการเงิน (ดีเอฟเอส) ของรัฐนิวยอร์ก ได้ส่งจดหมายถึงดอยช์ แบงก์, ซิกเนเจอร์ แบงก์ และนิวยอร์ก คอมมิวนิตี้ แบงก์ เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงทางการเงิน ตลอดจนถึงเงินกู้ที่ปล่อยให้หรือที่บริษัทของคุชเนอร์ขอกู้ โดยให้เวลาแบงก์เหล่านี้ถึงวันจันทร์ (5 มี.ค.)
ดีเอฟเอสและดอยช์ แบงก์ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้
ทว่า โฆษกของกลุ่มบริษัทของคุชเนอร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นลูกเขยคนโปรดแล้ว ยังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยนั้น ออกมาตอบโต้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการก่อกวนที่มีแรงจูงใจทางการเมืองล้วนๆ เนื่องจากบริษัทมีสถานะการเงินแข็งแกร่งมาก นอกจากนั้นก่อนที่คุชเนอร์จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอเพื่อไปรับหน้าที่สำคัญในทำเนียบขาว บริษัทยังไม่เคยถูกตรวจสอบแบบนี้เลย
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนั้น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า บริษัทของคุชเนอร์ได้เงินกู้ก้อนใหญ่จากอะพอลโล โกลบัล แมเนจเมนต์ หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนในหุ้นนอกตลาดใหญ่ที่สุดของโลก และจากซิตี้กรุ๊ป หลังจากคุชเนอร์นัดหารือกับตัวแทนของทั้งสองเจ้านี้ที่ทำเนียบขาวไม่นาน
รายงานชิ้นนี้อ้างการตั้งข้อสังเกตของดอน ฟ็อกซ์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานจริยธรรมรัฐบาลในยุคอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่บอกว่า เงินกู้เหล่านั้นทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
นิวยอร์กไทมส์ลงรายละเอียดว่า คุชเนอร์พบกับโจชัว แฮร์ริส ผู้ก่อตั้งอะพอลโล หลายครั้งระหว่างปี 2017 และกระทั่งมีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่แฮร์ริสจะรับตำแหน่งในทำเนียบขาว ซึ่งสุดท้ายไม่ได้เกิดขึ้นจริง
เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว บริษัทของคุชเนอร์ได้เงินกู้ 184 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 เท่าของเงินกู้เฉลี่ยที่อะพอลโลปล่อยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนั้น ลูกเขยทรัมป์พบไมเคิล แอล. คอร์แบต ประธานบริหารซิตี้กรุ๊ปในช่วงปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่นานหลังจากนั้นบริษัทของเขาก็ได้เงินกู้ 325 ล้านดอลลาร์จากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่แห่งนี้
เมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับข่าวนี้ ทำเนียบขาวบอกให้นักข่าวไปตามเรื่องกับแอ็บบี้ โลเวลล์ ทนายความส่วนตัวของคุชเนอร์แทน โดยโลเวลล์ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการพูดคุยที่ทำเนียบขาว แต่ยืนยันว่า ลูกความของตนไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมใดๆ
คุชเนอร์ที่แต่งงานกับอิวองกา ลูกสาวของทรัมป์นั้น มีบทบาทอย่างมากในคณะบริหารของพ่อตา และได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงข้อตกลงสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์
บัณฑิตฮาร์วาร์ดที่มีปริญญานิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กพ่วงท้ายผู้นี้ บริหารอาณาจักรธุรกิจของครอบครัวก่อนประกาศในเดือนมกราคม 2017 ว่าวางมือจากการบริหารบริษัทเหล่านี้ จากนั้นจึงได้รับแต่งตั้งเข้าร่วมคณะบริหารของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม แม้คุชเนอร์สมัครใจละทิ้งตำแหน่งระดับสูงในกิจการนิติบุคคลกว่า 200 แห่งในอาณาจักรธุรกิจของครอบครัว แต่เขายังคงถือหุ้นและมีรายได้จากบริษัทเหล่านั้นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทำเนียบขาวเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจของคุชเนอร์ที่รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรัฐนิวยอร์กและรัฐนิวเจอร์ซีย์ถูกจับจ้อง
เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว บริษัทในเครือแห่งหนึ่งต้องออกมาขอโทษหลังจากเอ่ยชื่อจาเร็ด คุชเนอร์ ระหว่างนำเสนอโครงการต่อนักลงทุนจีน เนื่องจากอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน