รอยเตอร์ - องค์กรอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสิงคโปร์ว่าจงใจ “จำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน” หลังมีการเสนอกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ภาครัฐในการสั่งห้ามส่งต่อภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอจากพื้นที่ก่อการร้าย และห้ามรายงานข่าวเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงของตำรวจ
ภายใต้กฎหมายใหม่ที่ถูกเสนอในสัปดาห์นี้ ทางการสิงคโปร์จะมีสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึก/ส่งต่อภาพหรือคลิปวิดีโอในบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย และอาจห้ามการส่งข้อความหรือคลิปเสียงเกี่ยวกับปฏิบัติการของตำรวจในพื้นที่ด้วย
แม้สิงคโปร์จะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้รัฐบาลก็ได้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการก่อการร้าย เพื่อรับมือกิจกรรมของกลุ่มติดอาวุธซึ่งเกิดบ่อยขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กฎหมายใหม่ยังกำหนดระวางโทษปรับหรือจำคุกสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง “ห้ามสื่อสาร” ซึ่งจะรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยและผู้บัญชาการตำรวจจะเป็นผู้อนุมัติ
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ชี้แจงว่า กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลไปถึงผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาจทำให้ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงบางคนก็แสดงท่าทีเห็นด้วยกับมาตรการนี้
ทางกระทรวงได้ตอบข้อซักถามของรอยเตอร์ผ่านอีเมลว่า “เราไม่ได้มีเจตนาจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน หรือการเข้าถึงข้อมูลของสาธารณชน... มาตรการนี้ต้องให้ผู้บัญชาการตำรวจเป็นคนสั่งหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยออกหนังสืออนุญาตแล้ว และผู้บัญชาการตำรวจจะเป็นคนพิจารณาว่าจำเป็นต้องทำหรือไม่”
ด้านองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ซึ่งมีฐานในฝรั่งเศสชี้ว่า คำสั่งห้ามสื่อสารถือเป็นการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชน “ขั้นร้ายแรง” ส่วนคณะกรรมการปกป้องผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐฯ ก็ออกมาวิจารณ์ในลักษณะเดียวกัน
ดัชนีเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom) โดยองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนได้จัดอันดับสิงคโปร์เอาไว้ที่ 151 จากทั้งหมด 180 ประเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ยังเตรียมออกกฎหมายเอาผิดพวกที่เผยแพร่ข่าวเท็จ ซึ่งนักวิจารณ์เตือนว่าจะยิ่งบั่นทอนเสรีภาพสื่อในประเทศแห่งนี้ที่ถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมายมากอยู่แล้ว
เค. ชานมูกัม รัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายของสิงคโปร์ ระบุว่า การป้องกันไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชนจะช่วยให้เสรีภาพสื่อมีความหมายมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญบางคนออกมาสนับสนุนกฎหมายนี้ โดยเชื่อว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการอภิปรายถกเถียงเรื่องการทำงานของสื่อในบริบทของการก่อต้านก่อการร้าย
“รัฐบาลควรทำงานร่วมกับสื่อมวลชน เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของพวกเขาจะไม่บั่นทอนความมั่นคงของรัฐ” โรฮาน คุณะรัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายจากวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ ระบุ
“บุคลากรสื่อควรได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้เข้าใจว่า การรายงานข่าวต้องไม่ไปยั่วยุอารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือช่วยให้ผู้ก่อการร้ายสามารถเข่นฆ่าหรือทำลายทรัพย์สินได้มากขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์”