xs
xsm
sm
md
lg

ทางการจีนเร่งปกป้องแผนต่ออายุ 'สีจิ้นผิง' อยู่ในตำแหน่งยาวๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>โปสเตอร์ภาพของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ติดตั้งอยู่ข้างถนนสายหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (26 ก.พ.) </i>
เอเจนซีส์ – จีนปูพรมโฆษณาชวนเชื่อเต็มพิกัดเพื่อปกป้องแผนการของพรรคคอมมิวนิสต์ในการยกเลิกการจำกัดวาระการทำงานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการเซนเซอร์สกัดเสียงวิจารณ์ในโลกโซเชียล ขณะที่ทำเนียบขาวแสดงความเห็นอย่างระมัดระวังว่า เรื่องนี้ต้องปล่อยให้จีนตัดสินใจเอง

แดนมังกรทำให้ผู้สังเกตการณ์ในโลกตะวันตกตะลึงกันเป็นแถว หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) จะดำเนินการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยุติการจำกัดการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีเพียง 2 วาระๆ ละ 5 ปี ซึ่งจะเปิดทางให้ สีปกครองประเทศเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ไปเรื่อยๆ

เห็นกันว่า สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) หรือรัฐสภาจีน ซึ่งมีกำหนดเริ่มการประชุมเต็มคณะประจำปีกันในสัปดาห์หน้า จะรับรองข้อเสนอจากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเรื่องนี้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งหมายความว่า สี ที่เป็นผู้นำทรงอิทธิพลที่สุดของจีนในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา สามารถอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อภายหลังปี 2023

ปรากฏว่า หลี่ ต้าถง อดีตบรรณาธิการไชน่า ยูธ เดลี่ หนังสือพิมพ์ของทางการปักกิ่ง ได้โพสต์จดหมายเรียกร้องสมาชิกรัฐสภาให้ลงมติคัดค้านมาตรการต่ออายุประธานาธิบดี ซึ่งจะเป็นการล้มล้างข้อจำกัดที่เติ้ง เสี่ยวผิงกำหนดไว้ในปี 1982 เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศกลับสู่กลียุคที่เคยเกิดขึ้นภายใต้สมัยเหมา เจ๋อตง

จดหมายดังกล่าวที่แชร์กับผู้ใช้หลายร้อยคนในกลุ่มส่วนตัวบนวีแชต หรือแอปส่งข้อความบนมือถือของจีน ระบุว่า กฎของเติ้งเป็นข้อจำกัดทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อป้องกันอัตตาธิปไตยหรือการทำให้บุคคลหนึ่งคนใดอยู่เหนือพรรคหรือรัฐ หลี่สำทับว่า การยกเลิกข้อจำกัดนี้จะทำให้จีนเป็นตัวตลกในสายตาประเทศศิวิไลซ์ทั่วโลก รวมทั้งเป็นการบ่มเพาะความวุ่นวายในจีน

ผู้ใช้วีแชตพยายามแชร์ภาพหน้าจอของจดหมายฉบับนี้ที่โพสต์ไว้ตั้งแต่วันจันทร์ (26) แต่ถูกบล็อก เช่นเดียวกับการแสดงความคิดเห็นอื่นๆ บนโซเชียลมีเดีย แม้แต่คำว่า “ไม่เห็นด้วย” ยังถูกสกัด กระนั้น ผู้ใช้เว่ยโป๋หรือทวิตเตอร์ของจีน ยังคงวิจารณ์เรื่องนี้กันสนั่นเว็บ เช่น คนหนึ่งที่บอกว่า จีนกำลังจะมีผู้นำเผด็จการเลียนแบบเกาหลีเหนือ

ทางด้าน ไชน่า ดิจิตอล ไทมส์ อันเป็นเว็บไซต์ในสหรัฐฯที่คอยเฝ้าติดตามกิจกรรมในอินเทอร์เน็ตของจีน ยกตัวอย่างคำเป็นสิบที่ถูกทางการจีนบล็อก เช่น “จักรพรรดิของฉัน” “ขึ้นครองบัลลังก์” “ฉันคัดค้าน” “ตลอดชีวิต” และ “วินนี่ เดอะ พูห์” ตัวการ์ตูนหมีที่มีคนเอาไปเปรียบเทียบกับสี

ทั้งนี้ ในการประชุมเต็มคณะประจำปีที่เริ่มต้นเมื่อวันจันทร์นั้น เอ็นพีซีมีวาระจะอนุมัติให้ สี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นวาระที่สองอยู่แล้ว ขณะที่สี ยังเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลางของพรรค ซึ่งเท่ากับเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของแดนมังกรอีกด้วย
<i>โปสเตอร์ภาพวาดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมคำคมของเขา ณ ตลาดแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (26 ก.พ.) </i>
ขณะเดียวกัน บรรดาสื่อของรัฐต่างเรียงหน้าออกมาปกป้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในบทบรรณาธิการที่ยกย่องความเป็นผู้นำโดยรวมของพรรคคอมมิวนิสต์

ไชน่า เดลี่ หนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษของทางการจีนกล่าวว่า การยกเลิกข้อจำกัดการครองตำแหน่งของประธานาธิบดีเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพื่อปกป้องพรรคและระบบผู้นำของประเทศ และปกติแล้วพรรคจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับทิศทางของประเทศ และวิธีดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงประเทศ และสร้างหลักประกันว่า ประชาชนจะมีความสุขมากขึ้น

โกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์แนวชาตินิยม ยกย่องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการตอบรับต่อยุคสมัยใหม่ ไม่ได้หมายความว่าประธานาธิบดีจะอยู่ในตำแหน่งชั่วนิรันดร์ และบอกว่า นับจากสีขึ้นสู่อำนาจ ทีมบริหารประเทศชุดใหม่ไม่ได้แค่ปฏิบัติตามแนวทางของสีเท่านั้น แต่ยังเริ่มลงลึกมาตรการปฏิรูปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

โกลบัล ไทมส์ยังกระทบกระเทียบระบบการเมืองของอเมริกาและยุโรปว่า ส่งผลต่อกรอบความคิดของคนจีนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ขณะที่สาระสำคัญหลายๆ อย่างในระบบค่านิยมตะวันตกเองกลับกำลังล่มสลายและประชาธิปไตยก็กำลังเน่าเปื่อย

หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์ นำบทความขนาดยาวของสำนักข่าวซินหวาที่ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตีพิมพ์ซ้ำ

ท่ามกลางการจับจ้องของนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศจีนที่ปกติแล้วจะแสดงความคิดเห็นในประเด็นทางการทูตเท่านั้น ได้ออกคำแถลงระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของคนจีน

ทางด้านคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่นับ สีเ ป็นเพื่อน แต่กลับปะทะกับปักกิ่งเรื่องการค้าบ่ยอยครั้ง คราวนี้มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจีนเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น