เอเจนซีส์ - ล่าสุดพบบริษัทไวน์สตีน สูตดิโอชื่อดังในเมืองนิวยอร์ก ซิตี ของผู้สร้างชื่อดังฮอลลีวูด ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ประกาศยื่นขอล้มละลาย หลังการเจรจาขายให้กลุ่มนักลงทุนไม่ประสบความสำเร็จ
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(26 ก.พ)ว่า ทั้งนี้พบว่าการเจรจาเสร็จสิ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้าเมื่อสำนักงานอัยการนิวยอร์กได้ยื่นฟ้องทางกฎหมายต่อบริษัทไวน์สตีน (the Weinstein Company) ของเจ้าพ่อฮอลลีวูด ผู้ก่อตั้งร่วมค่ายหนังมิราแม็กซ์ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein )
ซึ่งบรรดาผู้อำนวยการต่างชี้ว่า การถูกสั่งให้ล้มละลายกลายเป็นหนทางเดียวที่เป็นไปได้
ส่วนตัวของไวน์สตีนนั้นตกเป็นจำเลยในคดีล่วงละเมิดทางเพศหลายสิบคดี ซึ่งรวมไปถึงคดีข่มขืน แต่ทว่า เขาปฎิเสธอย่างแข็งขันต่อข้อกล่าวหาความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่สมยอม
สื่ออังกฤษรายงานว่า คดีแรกเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านม และหลังจากนั้นมีเหยื่อสตรีกว่า 50 ราย รวมไปถึงดาราที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูดต่างดาหน้าออกมาประกาศ ถูกไวน์สตีนคุกคามทางเพศ ข่มขืน การทำร้ายทางเพศ
และส่งผลทำให้บอร์ดบริหารของบริษัทต้องไล่ฮาร์วีย์ ไวน์สตีนออกหลังจากนั้น
ทั้งนี้ในการแถลงการยื่นฟ้องล้มละลาย บีบีซีรายงานว่า ทางบอร์ดบริหารกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บริษัทไวน์สตีนที่ผ่านมาอยู่ในกระบวนการเจรจาขาย ซึ่งหวังว่าจะสามารถรักษาทรัพย์สินและงานไว้ได้”
โดยนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ทางกลุ่มลงทุนที่มีมาเรีย คอนเทรราส-สวีท( Maria Contreras-Sweet) อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯสมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป็นผู้นำ เสนอซื้อบริษัทไวน์สตีน โดยข้อเสนอเดิมตกลงไว้ที่ราคา 275 ล้านดอลลาร์ ที่มีการประมาณการว่าทางบริษัทมีหนี้อยู่ราว 225 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทางบริษัทไวน์สตีนมีพนักงานทำงานร่วม 150 ชีวิต
สื่ออังกฤษชี้ว่า และในแถลงการณ์ของบอร์ดบริหารระบุว่า “แต่ในวันนี้ การเจรจาเหล่านั้นได้จบสิ้นลงโดยที่ไม่มีการลงนามเกิดขึ้น”
ซึ่งแถลงการณ์บอร์ดบริหารชี้ว่า หนทางเดียวที่มีอยู่คือ "การยื่นขอล้มละลาย" ในการที่จะรักษาคุณค่าที่เหลือของบริษัทสตูดิโอไว้ให้ได้มากที่สุด
สื่ออังกฤษชี้ว่า คดีฟ้องร้องด้านสิทธิมนุษยชนต่อบริษัทชี้ว่า ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และละเมิดเหยื่อผู้หญิงซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทนานหลายปี รวมไปถึงการใช้วาจาข่มขู่ที่จะเอาชีวิตพนักงาน
ซึ่งนอกจากตัวไวน์สตีนแล้ว พบว่าในการยื่นฟ้องยังรวมไปถึงน้องชายของไวน์สตีน โรเบิร์ต ไวน์สตีน ที่ล้มเหลวในการปกป้องพนักงานของตัวเองจากการถูกคุกคามถึงแม้จะมีหลักฐานปรากฎชัดเจน