เอเจนซีส์/เอพี /MGRออนไลน์ - ยังไม่จบล่าสุดผู้นำเม็กซิโก เอนริเก เปนญา นีเอโต มีรายงานว่า ปะทะคารมกับผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทางโทรศัพท์เรื่อง “กำแพงกั้นพรมแดน” สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้การเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ต้องมีอันล้มเลิก ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ผู้นำแดนจังโก้ยกเลิก หลังก่อนหน้าปีที่แล้ว "เปนญา นีเอโต" ประกาศยกเลิกทางทวิตเตอร์
VOX รายงานเมื่อวานนี้(25 ก.พ)ว่า กลายเป็นตำนานที่ผู้นำจากแดนรัฐทางใต้ที่อาจจะไม่ได้เยือนทำเนียบขาวเพื่อพบกับผู้นำคนใหม่ของวอชิงตันอย่างเป็นทางการก่อนหมดสมัยการดำรงตำแหน่ง เมื่อวอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันเสาร์(24)ว่า พบว่า ประธานาธิบดีเม็กซิโก เอนริเก เปนญา นีเอโต ที่มีแนวความคิดที่จะเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในเดือนนี้ หรือเดือนมีนาคมที่จะถึง ต้องมีอันต้องยกเลิกไป
ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า ทั้งเม็กซิโกและสหรัฐฯได้ทำการยกเลิกหมายกำหนด หลังจากผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปฎิเสธที่จะยอมรับในทางสาธารณะว่า เม็กซิโกจะไม่ยอมจ่ายค่าสร้างกำแพงกั้นระหว่างพรมแดนของทั้ง 2 ชาติตามประกาศของทรัมป์ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
VOXชี้ว่า สำหรับเม็กซิโกแล้ว กำแพงกั้นพรมแดนเป็นเสมือนการหมิ่นเกียร์ติ และการยอมจ่ายเป็นเหมือนการทำลายความภาคภูมิใจของชาติเม็กซิกัน
แต่สำหรับทรัมป์แล้ว การมีกำแพงกั้นพรมแดนทางใต้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่บรรดาผู้สนับสนุนผู้นำสหรัฐฯต้องการเห็นให้เกิดขึ้นจริง
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พบว่าทั้งทรัมป์และเปนญา นีเอโต ต่างมีความเห็นตรงกันว่า “ยังไม่ถึงเวลา” ที่คนทั้งคู่จะพบกันอย่างเป็นทางการในทำเนียบขาว ถึงแม้ว่าทรัมป์จะขึ้นนั่งในตำแหน่งมากว่า 1 ปีแล้ว และอีกทั้งเม็กซิโกจะมีการเลือกตั้งผู้นำคนถัดไปในวันที่ 1 ก.คที่จะถึง ซึ่งประธานาธิบดี เปนญา นีเอโต ไม่ได้ลงชิงกลับเข้าตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 แต่ทว่าทางแหล่งข่าวสหรัฐฯอ้างว่า ความร่วมมือระดับทวิภาคีในระดับเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ชาติจะยังคงมีต่อไป
ซึ่งในรายงานของวอชิงตันโพสต์ชี้ว่า ในการต่อสายทางโทรศัพท์เป็นเวลาร่วม 50 นาทีเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางหนังสือพิมพ์สหรัฐฯรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและเจ้าหน้าที่เม็กซิกัน ยืนยันว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง 2 ผู้นำถูกทำให้จบกระทันหันด้วยปัญหา “กำแพงกั้นพรมแดน” ซึ่งทรัมป์ได้เคยรับปากในช่วงหาเสียงว่า จะบังคับให้แดนจังโก้ต้องจ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้การไหลเข้ามาของคนลักลอบเข้าเมืองและยาเสพติดสู่สหรัฐฯ
ยูเอสเอทูเดย์ หนังสือพิมพ์สหรัฐฯอีกฉบับรายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เม็กซิกันได้ให้ข้อมูลกับวอชิงตันโพสต์ว่า ผู้นำสหรัฐฯสูญเสียการควบคุมตัวในช่วงระหว่าง 50 นาทีของการสนทนากับประธานาธิบดีเม็กซิกัน
ส่วนเอพีชี้ว่า ทำเนียบขาวแถลงในวันเสาร์(24)ว่า การสนทนาเกิดขึ้นในวันที่ 20 ก.พ แต่อย่างไรก็ตาม ทำเนียบแก้ตัวว่า ผู้นำสหรัฐฯเพียงแต่หงุดหงิดต่อข้อเสนอของผู้ทำเม็กซิโกที่ทางทรัมป์คิดว่า เป็นข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผล
เอพีรายงานต่อว่า ในแถลงการณ์ของทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในรัฐวาฮากาที่นำรัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโกและผู้ว่าการรัฐวาฮากาไปสำรวจความเสียหายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเหตุฮ.ตกให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน และในทางกลับกัน เปนญา นีเอโต” ได้แสดงความเสียใจต่อทรัมป์ในเหตุการณ์กราดยิงโรงเรียนมัธยมรัฐฟลอริดาที่มีผู้เสียชีวิตถึง 17 คน
นอกจากนี้แถลงการณ์ของทำเนียบขาวยังกล่าวต่อว่า ผู้นำสหรัฐฯได้เพิ่มความร่วมมือกับเม็กซิโกทั้งด้านความมันคง การค้า และการเข้าเมือง ซึ่งเอพีวิเคราะห์ว่า แถลงการณ์ของทำเนียบขาวที่ออกมาในวันเสาร์(24) นั้น มีลักษณะพยายามลดสิ่งที่ปรากฎว่า “เป็นความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านทางใต้”
ยูเอสเอทูเดย์กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ประเด็นสร้างกำแพงอาจจะไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้นำทั้งสองขัดแย้ง เพราะยังมีประเด็นข้อตกลงการค้าเสรีนาฟตา (NAFTA) ที่ทรัมป์พยายามจะแก้ไข และขู่จะถอนตัวออกมา เพราะในสายตาของผู้นำสหรัฐฯเห็นว่า ข้อตกลงนี้ที่สำเร็จในสมัยประธานาธิบดีคลินตันจากพรรคเดโมแครต และใช้มานานร่วม 24 ปี เป็นข้อตกลงที่เอาเปรียบสหรัฐฯ
ทั้งนี้ก่อนหน้า กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกเคยประกาศว่า ผู้นำเม็กซิโกจะพบหารือกับทรัมป์อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อปรึกษาหารือปัญหากำแพง การค้า และอื่นๆ
VOX รายงานว่า การยกเลิกการเยือนทำเนียบขาวของเปนญา นีเอโตล่าสุดถือเป็นครั้งที่ 2 หลังก่อนหน้าผู้นำเม็กซิโกเคยประกาศยกเลิกการเยือนผ่านทางทวิตเตอร์มาแล้ว ซึ่งอ้างอิงจาก ยูเอสเอทูเดย์ พบว่าในเวลานั้นผู้นำสหรัฐฯได้ทวีตข้อความในเดือนมกราคม 2017 ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเข้ารับตำแหน่งของเขาว่า “ให้ผู้นำเม็กซิโกอยู่ที่บ้าน หากว่าไม่ต้องการจ่ายค่าสร้างกำแพง”
